Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

La Sylphide

ลา ซิลฟีเด (La Sylphide)

เป็นบทประพันธ์ละครบัลเลต์ ที่แต่งโดย ฟิลิปโป้ ตากลิโอนิ (Filipo Taglioni) เปิดแสดงครั้งแรกที่ปารีสโอเปร่า (Paris Opera) เมื่อ 12 มีนาคม 1832

องก์ ที่ 1

เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวสก๊อต มีชื่อว่า เจมส์ (James)  ซึ่งเขามีกำหนดจะต้องแต่งงานกัน เอฟฟี่ (Effie)  แต่ว่าในเช้าของวันที่จะมีพิธีการแต่งงาน เจมส์นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ใกล้กับเตาผิง จู่ๆ ก็ได้มีภูติ (sylph) ตนหนึ่ง ชื่อ ซิลฟีเด ปรากฏตัวขึ้นมาร่ายรำไปรอบๆ เก้าอี้ ก่อนที่เธอจะปลุกเขาให้ตื่นด้วยการจูบอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็เต้นระบำอยู่รอบๆ ตัวของเด็กหนุ่มก่อนที่จะร่างของเธอจะค่อยๆ อันตธานหายไป

ในขณะที่เพื่อนของเจมส์ก็ทยอยกันมาที่บ้านในตอนเช้าเพื่อช่วยเตรียมงาน หนึ่งในนั้นคือญาติของเจมส์ มีชื่อว่า เกิร์น (Gurn) ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่แอบหลงรักเอฟฟี่ ซึ่งระหว่างที่กำลังจัดเตรียมความพร้อมของงานแต่งนั้น ปรากฏว่าได้มีหญิงชราคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่มด ชื่อว่า แมดกี้ (Madge) เดินเข้ามาในบ้าน และเข้าไปใกล้ๆ กับเตาผิงเพื่อที่จะอบอุ่นร่างกายของตัวเอง 

แต่ว่าเจมส์แสดงท่าทีรังเกียจหญิงชราและได้พยายามไล่หญิงชราคนนี้ออกไปจากบ้าน เกิร์นเห็นอย่างนั้น เกิร์นก็เลยทำตัวสนิทสนมกับแมดกี้ และชวนให้แมดกี้อยู่ดื่มกินในงานด้วยกัน 

แมดกี้ซึ่งมีความสามารถในการดูดวงชะตาจากลายมือ ได้ทำนายดวงชะตาให้กับเอฟฟี่ ซึ่งแมดกี้ได้ทำนายว่าเอฟฟี่กับเจมส์จะไม่ได้แต่งงานกัน แต่เอฟฟี่จะได้แต่งงานเป็นภรรยาของเกิร์นแทน

เจมส์ได้ยินคำทำนายเช่นนั้น ก็โมโหและไล่แมดกี้ออกไปจากบ้าน แม่มดแมดกี้ก็เข้าไปอยู่ในป่า

แต่เจมส์นั้นสับสนและหวั่นไหวกับคำพยากรณ์ เขาหลบไปอยู่ในห้องลำพัง และซิลฟีเดก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกหน้าต่าง โดยเธอพยายามที่จะหลอกล่อให้เจมส์ตามเธอเข้าไปในป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเธอ 

แต่ว่าเกิร์นเดินเข้ามาในห้องและเห็นว่าเจมส์กำลังวิ่งไล่จับกับอากาศที่ว่างเปล่า เกิร์นจึงได้ไปตามคนอื่นๆ เพื่อมาเป็นประจักษ์พยายานว่าเจมส์มีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด แต่ว่าเมื่อทุกคนวิ่งมาที่ห้องของเจมส์ ซิลฟีเดก็อันตธานหายไป  มีเพียงเจมส์เท่านั้นที่สามารถของเห็นซิลฟีเด เขาเห็นว่าซิลฟีเดหายเข้าไปในป่า เขาจึงวิ่งตามไป

เอฟฟี่รู้สึกเสียใจที่ว่าที่สามีวิ่งหนีไปจากงาน ก็โผเข้ากอดกับมารดาและร้องไห้

องก์ ที่ 2

เจมส์ซึ่งตามซิลฟีเด เข้ามาในป่า ซิลฟีเดได้แสดงให้เจมส์เห็นอาณาจักรของเธอในป่า ซึ่งอุดมสมบูรณ์ สวยงาม มีผลไม้มากมาย และบรรดาภูติก็ต่างเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน 

แต่ว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน เจมส์ไม่สามารถที่จะสัมผัสร่างกายของซิลฟีเดได้ 

ต่อมาเจมส์ได้เจอกับแม่มดแมดกี้ในป่า แมดกี้เสนอที่จะช่วยเจมส์ให้สามารถสัมผัสร่างของซิลฟีเดได้ โดยแมดกี้มอบผ้าคลุมวิเศษให้กับเจมส์ โดยบอกว่าถ้าเขาใช้ผ้านี้คลุมที่ไหล่และร่างของภูติ เขาก็จะสัมผัสร่างของนางได้

แต่ว่าอันที่จริงผ้าคลุมที่แมดกี้มอบให้เจมส์นั้นเคลือบไปด้วยยาพิษ เมื่อเจมส์ใช้ผ้าคลุมคลุมที่ร่างของซิลฟีเด ปีกของซิลฟีเดก็หลุดร่วงลง และนางก็เสียชีวิต

ในขณะที่พิธีแต่งงานดำเนินต่อไป เอฟฟี้ซึ่งถูกเจมส์ทิ้ง ก็ตัดสินใจรับรักของเกิร์นและเข้าพีธีกับเขา

เจมส์ซึ่งกลับมาเห็นว่าเอฟฟี่กำลังแต่งงานกับคนอื่น ก็ยิ่งเสียใจอย่างหนักอีกน

เรื่องนี้จบลงด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเย้ยหยันของแม่มดแมดกี้ ที่เป็นฝ่ายได้แก้แค้นและมีชัยชนะ

Don`t copy text!