Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Godesberg Program

Godesberg Program (Godesberger Programm, 1959-1989) เป็นแผนนโยบายใหม่ของพรรค Social Democratic Party of German (SPD) ซึ่งแผนนโยบายนี้ได้รับการรับรองจากสมาชิกของพรรคในวันที่  15 พฤศจิกายน 1959 ในที่ประชุมสามัญของพรรคที่จัดขึ้นในเมืองแบดโกเดสเบิร์ก (Bade Godesberg) 

Godesberg Program เป็นการเปลี่ยนแนวคิดรากฐานหลายประการของพรรค SPD ซึ่งเป็นพรรคที่มีรากฐานจากแบบคอมมิวนิสต์ ซึ่ง SPD เป็นพรรคคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปขณะนั้น ซึ่งพรรค SPD เรียกแนวคิดใหม่นี้ว่าเป้น สังคมนิยมเสรี (Liberal Socialism, freiheitlicher Sozialismus) และเปลี่ยนจาก พรรคของชนชั้นแรงงาน (socialist workers’ party) กลายเป็นพรรคของประชาชน (People’s party, Volkspartel)

Godesberger Program มีการปฏิเสธแนวคิดซึ่งเป็นพื้นฐานของคอมมิวนิสต์

– ปฏิเสธแนวคิดที่ว่าทุนนิยม (capitalism) จะถูกแทนที่ด้วยคอมมิวนิสต์

– ปฏิเสธการให้รัฐบาลผูกขาดการบริหารจัดการเศรษฐกิจ (nationalization) ซึ่งเป็นเป้าหมายของลัทธิสังคมนิยมดังเดิม

– ปฏิเสธแนวคิดเรื่องความขัดแย้งระหว่างชนชั้น (class struggle) ซึ่งความขัดแย้งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหารัฐสามารถรักษาสมดุลย์ของผลประโยชน์ระหว่างชนชั้นต่างๆ ได้ และชนชั้นที่ต่างกันก็สามารถที่จะร่วมมือกันได้ 

– ปฏิเสธการใช้สงครามหรือกำลังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง

– ยอมรับการอยู่ร่วมกันระหว่างลัทธิสังคมนิยมกับศาสนา 

– ยอมรับระบบตลาดเสรี (free market) แต่ก็เห็นว่ารัฐมีความจำเป็นในการกำกับดูแล เพื่อไม่ให้เกิดพัฒนาการที่ถดถอยและเกิดผู้เล่นที่ผูกขาดหรือมีอำนาจมากเกินไป (oligarchy) โดยคาร์ล ชิลเลอร์ (Karl Schiiler) ให้กำกัดความว่า “ Compettion as much as possible, planing as much as nessessary / แข่งขั้นสุดๆ เท่าที่เป็นไปได้, และวางแผนเท่าที่จำเป็น” 

ความเป็นมา

1949 ในปี 1949 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (the Federal Republic of Germany ~ เยอรมันตะวันตก) ได้รับการสถาปนาขึ้นมา

สิงหาคม  หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก พรรค CDU ได้ที่นั่ง 139 ขณะที่พรรค SPD ได้ 131 ที่นั่ง และ พรรค FDP ได้ 52 ที่นั่ง

โดยที่ คอนราด อเดนัวร์ (Konrad Adenauer) จากพรรค CDU (Christian Democratic Union)  ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก (Chancellor of German) โดยที่เขาได้ตั้ง ลุดวิก เอร์ฮาร์ด (Ludwig Erhard) มาเป็นรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจของเยอรมันในสมัยของเขามีการใช้เศรษฐกิจแบบตลาดเสรีนิยม ปล่อยให้เอกชนมีการแข่งขันกันอย่างเต็มที่ ซึ่งผลลัพธ์ทำให้เศรษฐกิจของเยอรมันสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว จนถูกเรียกว่าเป็น “Wirtschaftswunder (economic miracle) โดยมีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ย 8% ระหว่างปี 1950-1959 ซึ่งภายในช่วงกลางปี 1950s เยอรมันก็กลับมาเป็นประเทศพัฒนาแล้วแถวหน้าของยุโรป 

1953 การเลือกตั้งในเยอรมัน ครั้งที่ 2  พรรค CDU/ CSU ได้รับ 243 ที่นั่ง, พรรค SPD ได้ 151 ที่นั่ง

แม้ว่าพรรค SPD ได้รับคะแนนสนับสนุนน้อยลงเล็กน้อย แต่ก็สร้างความไม่พอใจภายในพรรค ในขณะที่พรรคคู่แข่งอย่าง CDU/CSU ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก พรรค SPD จึงเริ่มมีการถกเถียงกันภายในอย่างกว้างขวางเพื่อหาเหตุผล และหาทางปฏิรูปพรรค

1954 ในการประชุมใหญ่พรรค SPD ซึ่งจัดขึ้นในเบอร์ลิน  ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการชุดปฏิรูปพรรคขึ้นมา 34 คน

1959 13-15 พฤศจิกายน, พรรค SPD จัดการประชุม โดยมีสมาชิกเข้าร่วมการประชุม 340 คน 

15 พฤศจิกายน,  the Godesberg Program ได้รับการรับรองโดยสมาชิก 324 คน และมีผู้ไม่เห็นด้วย 16 เสียง และกลายมาเป็นแนวคิดพื้นฐานของ SPD

Don`t copy text!