Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Eugene Wigner

ยูจีน วิกเนอร์ (Eugene Paul Wigner)

Noble Physics 1963

ยูจีน เกิดวันที่ 17 พฤศจิกายน 1902 ในบูดาเปสต์, ออสเตรีย-ฮังการี (Budapest, Austria-Hungary) ครอบครัวของเขาเป็นยิว พ่อชื่อแอนโธนี (Anthony Wigner) และแม่ชื่ออลิซาเบธ (Elisabeth Einhorn)  ครอบครัวของเขาเป็นชนชั้นกลางที่มีฐานะปานกลาง ทำธุรกิจย้อมสีหนัง ยูจีนมีพี่สาวคนหนึ่งชื่อเบอร์ธ่า (Bertha) และน้องสาวชื่อมาร์จิท (Margit) ซึ่งภายหลังมาร์จิทแต่งงานเป็นภรรยาของพอล ดิเรก (Paul Dirac)

ยูจีนเรียนหนังสืออยู่กับบ้านจนอายุ 9  ขวบ ก่อนที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนปกติ ตอน ม. 3 

1915 เข้าเรยีนที่โรงเรียนมัธยมฟาโซรี (Fasori Gimnázium) ซึ่งจอห์น นิวแมนน์ (John von Neumann) ก็เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้แต่เป็นรุ่นน้องของยูจีนอยู่ปีหนึ่ง

1919 ช่วงที่มีการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ในฮังการี โดยเบลา คุน (Bela Kun) ทำให้ยูนีนต้องหนีออกจากประเทศไปอยู่ในออสเตรีย ก่อนที่ไม่นานรัฐบาลของคุนก็ล้มลง ยูจีนถึงได้เดินทางกลับฮังการี แต่ว่าครอบครัวของเขาได้เปลี่ยนศาสนาจากยูดายไปเป็นลูเธอรัน (Lutheranism) หลังจากกลับมาเพราะกระแสการต่อต้านยิวหลังความวุ่นวายทางวการเมืองมีมากขึ้น

1920 เมื่อจบมัธยมปลายเขาก็สมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโน-วิทยาศาสตร์บูดาเปสต์ (Budapest University of Technical Sciences) 

1921 ย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเบอร์ลิน (Technical University of Berlin) ทางด้านวิศวะฯ เคมี ซึ่งระหว่างที่เรียนหนังสือเขาก็จะเข้าร่วมกลุ่มบ่ายวันพุธกับสมาคมฟิสิกส์ (German Physical Society)  ซึ่งมีสมาชิกอย่างแพลงค์ (Max Planck), ไฮเซนเบิร์ก (Werner Heisenberg), พอลลี (Wolfgang Pauli) ด้วย 

1926 หลังจากเรียนจบได้เข้าทำงานที่สถาบันเคมีฟิสิกส์ไกเซอร์ วิลเฮมล์ (Kaiser Wilhelm Institute for Physical Chemistry and Electrochemistry) ซึ่งที่นี่เขาได้พบกับไมเคิ้ล โพลันยี (Michael Polanyi) ซึ่งเป็นอาจารย์ที่สำคัญของเขาอีกคน

1927 เข้าทำงานที่มหาวิทยาลัยก๊อตตินเก้น (University of Göttingen) ซึ่งระหว่างอยู่ที่นี่เขาได้ Wigner D-matrix 

1930 ได้รับการว่าจ้างให้มาสอนที่มหาวิทยาลัยพริ้นตัน (Princeton University) พร้อมกับนูแมนน์ (von Neumann) จนเมื่อฮิตเลอร์มีอำนาจในเยอรมันช่วง ปี 1933 ทำให้ยูจีนตัดสินใจอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร

1936 ย้ายมาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (University of Wisconsin) ซึ่งที่นี่เขาได้พบรักกับอเมเรีย (Amelia Frank) ภรรยาของเขา ซึ่งขณะนั้นเธอเป็นนักศึกษาฟิสิกส์

1937 อเมเรีย เสียชีวิต , ในปีเดียวกันนี้ยูจีนก็ได้รับสัญชาติอเมริกัน

1938 กลับมาทำงานที่พริ้นตัน 

1941 แต่งงานครั้งที่สอง กับมารี วีเลอร์ (Mary Annette Wheeler) ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ที่วิทยาลัยวาสซาร์ (Vassar College) 

1942 ช่วงเริ่มสงครามโลก ครั้งที่ 2 ยูจีนได้พบกับไอสไตน์ (Albert Einstein) และซิลาร์ด (Leo Szilard) ซึ่งทำให้มีการเขียนจดหมายไปถึงประธานาธิบดีรูสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt) เพื่อให้เห็นความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา  จนนำไปสู่คำสั่งในการเริ่มโครงการแมนฮัตตัน (Manhattan Project) 

ช่วงนี้เขาทำงานที่ห้องศูนย์วิจัยโลหะ (Metallurgical Laboratory) ร่วมกับเฟอร์มิ (Enrico Fermi) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเกิดปฏิกริยานิวเคลียร์ลูกโซ์ (Fission) ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงทฤษฏี 

1946 ยูจีนรับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของฝ่ายวิจัยในศูนย์วิจัยคลินตัน (Clinton Laboratory~ Oak Ridge National Laboratory) เขาบทบาทในการออกแบบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์สำหรับผลิตยูเรเนียม ที่จะนำไปเสริมสมรรถนะให้เป็นอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป 

1947 หลังสงครามเขาได้ตำแหน่งในกรรมการในสำนักงานมาตรฐานแห่งชาติ (National Bureau of Standards)

1951 ย้ายมาคณะกรรมการในสภาวิจัยแห่งชาติ (National Research Council) 

1952 เป็นคณะกรรมด้านฟิสิกส์ในมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

1960 เขียน The Unseasonable Effectiveness of Mathematics in the Natural Sciences

1963 ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ร่วมกับมาเรีย โกปเปิร์ต-เมเยอร์ (Maria Goeppert-Mayer) และเจ. เจนเซ่น (J. Han D. Jensen)

1979 พฤศจิกายน, มารีภรรยาของเขาเสียชีวิต

ยูจีนแต่งงานครั้งที่สามกับแพท ฮามิลตัน (Eileen Clare-Patton Hamilton)

1992 เขียนบันทึกความทรงจำชื่อ The Recollections of Eugene P. Wigner

1995 1 มกราคม, เสียชีวิตในพริ้นตัน จากอาการปอดบวม

Don`t copy text!