Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

A. A. Milne

อลัน อเล็กซานเดอร์  มิลน์ (Alan Alexander Milne)
มิลน์ เกิดวันที่ 18 มกราคม 1882  ในคิลเบิร์น, ลอนดอน (Kilburn, London) พ่อของเขาชื่อจอห์น (John Vine Milne) เป็นชาวอังกฤษแต่ว่าเกิดในจาไมก้า (Jamaica) แม่ชื่อซาราห์ (Sarah Marie Heginbotham) 
มิลน์ เริ่มเรียนในโรงเรียนประถมซึ่งพ่อของเขาเป็นเจ้าของ
เข้าเรียนที่เวสต์มินสเตอร์ (Westminster School) 
เข้าเรียนที่ไตรนิตี้คอลเลจ, แคมบริดจ์ (Trinity College, Cambridge) ทางด้านคณิตศาสตร์ ระหว่างที่เรียนอยู่ที่แคมบริดจ์ มิลน์ได้ร่วมเขียนบทความพิมพ์ลงในแม็กกาซีน The Granta 
1903 จบปริญญาตรีจากแคมบริดจ์ หลังจากนั้นได้ทำงานเป็นนักเขียนอิสระ
1906 ได้ทำงานกับแม็กกาซีน Punch แม็กกาซีนแนวขบขัน ซึ่งระหว่างที่ทำงานอยู่ที่นี่เขามีผลงานเขียนนิยายหลายเรื่องตีพิมพ์ลงในแม็กกาซีน ทั้งเรื่องสั้นสำหรับเยาวชนอย่าง Make-Believe (1918), A Gallery of Children (1925) และนิยายลึกลับ The Red House Mystery (1922)
1913 แต่งงานกับโดโรธี (Dorothy de Sélincourt, “Daphne”)  ซึ่งพวกเขามีลูกชายด้วยกันชื่อคริสโตเฟอร์ (Christopher Robin Milne) 
1915 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เข้าเป็นทหารในหน่วยทหารราบวอร์วิคไชร์ (Royal Warwickshire Regiment) ของกองทัพอังกฤษ
1916 7 กรกฏาคม, ได้รับบาดเจ็บระหว่างการรบที่ซอมเม่ (Battle of the Somme) และถูกนำตัวกลับอังกฤษ หลังจากหายดีแล้วเขาถูกย้ายไปทำงานกับหน่อย MI7 หน่วยข่าวกรองทหารของอังกฤษ โดยเขามีหน้าที่เขียนบทความเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ
1920 ออกจากกองทัพ หลังจากนั้นได้ทำงานเป็นนักเขียนบทละครอิสระ มีบทละครคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จ อาทิ Mr. Pim Passes By (1921) และ Michael and Mary  (1930) 
1926 Winnie-the-Pooh ถูกพิมพ์ออกมาครั้งแรก โดยที่ อี. เชปาร์ด (E. H. Shepard) เป็นคนวาดภาพประกอบ 
1941 ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เขาเป็นทหารในหน่วยโฮมการ์ด (Home Guard)
1942 มิลน์เขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองในชื่อ It’s Too Late Now
1952 ออกจากกองทัพหลังจากป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบและต้องรับการผ่าตัด
1965 31 มกราคม, เสียชีวิตในซัสเซกซ์ (Hartfield, Sussex. England) 

Don`t copy text!