Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Hans Jonatan

ฮันส์ โจนาตาน (Hans Jonatan)
มนุษย์คนแรกที่ถูกสร้าง DNA ขึ้นมาใหม่ โดยไม่ใช้ DNA ของเจ้าตัว
ฮันส์  เกิดในปี 1784 เขาเป็นทาสที่เกิดในฟาร์มปลูกอ้อยแห่งหนึ่งในคอนสติตูชั่นฮิล์ล (Constitution Hill) บนเกาะเซนต์ครอยซ์, เวสต์อินดียส์ (St. Croix, Danish West Indies) ในทะเลแคลิบเบียน ซึ่งเป็นอาณานิคมของเดนมาร์ก ที่บริษัทเดนิสเวสต์อินเดีย (The Danish was Indian company) ซื้อมาจากฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1733
ข้อมูลจากหนังสือ A biography of Jonatan (2014) อ้างว่าพ่อของฮันส์เป็นชาวเดนผิวขาว (Dane ชนพื้นเมืองของเดนมาร์ก) ชื่อว่าฮันส์ แกรม (Hans Gram) ซึ่งเป็นทาสที่ทำงานเป็นเลขาฯ ให้กับเจ้านายของตัวเอง  ส่วนแม่ของฮันส์ชื่ออีมิเลีย เรจิน่า (Emilia Regina) เป็นทาสผิวสีจากแอฟริกาที่ทำงานเป็นคนรับใช้ภายในบ้าน 
ฮันส์ มีน้องสาวต่างบิดาคนหนึ่ง ชื่อแอนน่า (Anna Maria, b.1788) ซึ่งแม่ของเขาตั้งท้องกับคนผิวชื่อแอนเดรียส (Andreas) ซึ่งก็เป็นทาสเช่นกัน
นายทาสซึ่งเป็นเจ้าของฮันส์ ชื่อว่าเฮนริช ชิมเมลมันน์ (Heinrich Ludwig Ernst von Schimmelmann) และนายหญิงชื่อเฮนเรียตเต้ แคธารีน่า (Henriette Catharine) 
1789 ครอบครัวของชิมเมลมันน์ได้ย้ายกลับไปอยู่ในโคเปนเฮเก้น, เดนมาร์ก โดยได้พาทาสของพวกเขากลับไปด้วย 
ต่อมาไม่นานเมื่อชิมเมลมันน์เสียชีวิต นางเฮนเรียนเต้ ภรรยาจึงได้กรรมสิทธิในฮันส์เป็นมรดก
1801 เมื่อฮันส์อายุ 17 ปี เขาได้หลบหนีจากนาจ้าง
ต่อมาฮันส์ได้เข้าเป็นทหารในกองทัพเรือของเดนมาร์ก และได้ร่วมในการรบในสงครามกับนโปเลียน (Napoleonic War, Battle of Copenhagen) ซึ่งวีรกรรมของเขาทำให้เขากลายเป็นที่รู้จัก
1802 ฮันส์ถูกตำรวจจับตัว และดำเนินคดีในข้อหาซึ่งเขาหลบหนีจากเจ้าของทาส ฮันส์และทนายความของเขาจึงได้ต่อสู้โดยอ้างว่า การใช้แรงงานทาสในเดนมาร์กผิดกฏหมาย เพราะว่าการใช้ทาสถูกกฏหมายมีเฉพาะในเวสต์อินดี้ส์เท่านั้น คดีนี้จึงได้รับความสนใจสาธารณะชนและเป็นคดีตัวของเกี่ยววกับการใช้ทาสในเดนมาร์กเวลานั้น คดีของฮันส์กับนายทาสหญิง รู้จักกันในชื่อคดี The General’s Widow versus the Mulatto
31 มีนาคม, ฮันส์ถูกศาลในโคเปนเฮเกนตัดสินให้ส่งตัวกลับไปยังเกาะเซนต์ครอยซ์
แต่ว่าฮันส์ก็หลบหนีระหว่างการถูกส่งตัวกลับแคลิบเบียน ซึ่งต่อมาปรากฏาว่าเขาไปอาศัยอยู่ที่เมืองดจูเพเวอร์เกอร์ (Djúpivogur, Iceland) ในไอส์แลนด์ 
ชีวิตของฮันส์จากนี้ไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่ทราบว่าในปี 1819 เขาทำธุรกิจท่าเรือขนถ่ายสินค้าเล็กๆ อยู่ในไอส์แลนด์ 
1820 กุมภาพันธ์, ฮันส์แต่งงานกับแคตริน (Katrín Antoníusdóttir) พวกเขามีลูกด้วยกันสามคน
1827 ฮันส์เสียชีวิต
ปัจจุบันในไอส์แลนด์มีลูกหลานที่สืบเชื้อสายจากฮันส์หลายร้อยร้อยคน
2014 หนังสือชีวประวัติของฮันส์ The Man Who stole Himself : The Slave Saga of His Jonathan เขียนโดยกิสลี พาลส์สัน (Gísli Pálsson) พิมพ์ออกมา

2018 นักวิทยาศาสตร์ของบริษัท DeCODE Genetics ประสบความสำเร็จในการสร้าง DNA ของฮันส์ขึ้นมาใหม่ โดยที่เป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถสร้าง DNA ของมนุษย์คนหนึ่งได้โดยที่ไม่ได้อาศัย DNA ของเจ้าตัวเลย แต่ว่านักวิทยาศาสตร์ใช้ตัวอย่าง DNA จากลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากฮันส์ 182 คน ในการสร้าง DNA ของฮันส์แทน ซึ่งการวิเคราะห์ดีเอ็นเอก็ให้ข้อมูลน่าสนใจอย่างหนึ่งว่าแม่ของฮันส์น่าจะเป็นชาวแอฟริกาจากแถบเบนนิ, ไนจีเรีย หรือว่าคาเมรูน
Don`t copy text!