Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Mieszko I of Poland

เมียสโก้ ที่ 1 (Mieszko I of Poland)
ผู้ก่อตั้งประเทศโปแลนด์
พงศาวดารกัลลา อโนนิม (Chronicles Galla Anonim เขียนขึ้นเป็นภาษาลาตินราวปี 1115) ได้ให้ข้อมูลว่ากษัตริย์เมียสโก้ ประสูตร ราวปี 920931 ทรงเป็นพระโอรสของเจ้าชายซีโมนิสล์  (Prince Siemonysl) กับพระมารดาที่ไม่ปรากฏพระนาม เจ้าชายซีโมนิสล์นั้นเป็นผู้ปกครองดินแดนเล็กๆ บริเวณวิลโกโปลสก้า (Wielkopolska)  ปัจจุบัน ซึ่งราชวงศ์เพียสต์ (Piast dynasty) ของพระองค์อาจจะปกครองบริเวณนี้มานานกว่าสองร้อยปีแล้ว
เมียสโก้ ขึ้นครองราชย์ หลังจากพระบิดาของพระองค์สวรรคตราวปี 950-960
960 พระองค์ได้เป็นผู้ปกครองเมืองเล็กๆ Gniezno
963 ทำสงครามกับพวกลูติซี (Lutici) หรือเวเลติ (Veleti) ซึ่งเป็นชนเผ่าเชื้อสายสลาฟที่กระจายตัวในพื้นที่ดังกล่าว โดยเมียสโก้ทรงต้องการที่จะผนวกดินแดนโพเมราเนียตะวันตก (Western Pomerania) แต่ว่ากองทัพของเมียสโก้ แพ้ให้กับกองทัพของแม่ทัพเกโร่ (Margrave Gero) แห่งโฮลี่โรมัน (Holyo Roman) ที่ขยายดินแดนมาทางตะวันออกและเปลี่ยนให้ดินแดนเหล่านั้นมานับถือศาสนาคริสต์
ความพ่ายแพ้ทำให้เมียสโก้หันไปเป็นพันธมิตรกับจักรพรรดิอ๊อตโต้ ที่ 1 แห่งโฮรี่โรมัน (Emperor Otto I of Holy Roman)
965 ทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงเชค พระนามว่าดุบราฟก้า (Princess Dubravka)  ซึ่งสองพระองค์มีพระโอรสและพระธิดา คือ เจ้าชายโบเลสลาฟ ที่ 1 (Boleslaw I the Brave) และเจ้าหญิงสวีโตสลาว่า (Świętosława)
966 (Baptism of Poland) เพราะว่าได้รับอิทธิพลจากโฮรี่โรมันและสาธารณรัฐเชคฯ  กษัตริย์เมียสโก้ จึงได้ทรงรับเอาศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาของพระองค์และเท่ากับเป็นศาสนาของโปแลนด์ด้วย
967 ด้วยความช่วยเหลือจากโฮลี่โรมัน เมียสโก้ จึงสามารถผนวกโพเมราเนียตะวันตกเอาไว้ โดยสามารถเอาชนะโพเมราเนียตะวันตกได้เด็ดขาดโดยสามารถรบชนะ วิชแมนน์ เดอะ ยังเกอร์ (Wichmann the Younger)  และสลาฟเผ่าโวลิน (Wolin) ได้
968 ก่อตั้งเมืองบิชอฟแห่งแรก (Polish bishopric) ขึ้นที่เมืองโปซนาน (Poznan) โดยบิชอฟของเมืองนี้จะส่งรายงานโดยตรงต่อโฮลี่โรมัน
970 มีการสร้างปราสาทและป้อมปราการสำคัญขึ้นที่ซานต๊อก (Santok) ซึ่งปราสาทสร้างจากไม้และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 240  เมตร แต่ว่าปราสาทถูกทำลายไปในปี 1420
972 โปแลนด์ถูกโจมตีจากกองทัพของแม่ทัพโฮโด (Margrave Odo) จากแซ็กซอน (Saxon) แต่ว่าสามารถป้องกันดินแดนเอาไว้ได้สำเร็จ ในการรบที่เซดีเนีย (Battle of Cedynia)
973 หลังจากมีสงครามกับแม่ทัพโฮโดแล้ว มีการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยจะให้จักรพรรดิอ๊อตโต เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งการเจรจาจะจัดขึ้นที่กูดลินบูร์ก (Quedlingburg)  แต่ไม่แน่ชัดว่าจักรพรรดิอ๊อตโต้ได้มีพระวินิจฉัยออกมาหรือไม่ เพราะว่าพระองค์สวรรคตในปีนี้   และเมียสโก้ก็ไม่ได้เสด็จมาที่กูดลิบูร์ก แต่ได้ส่งเจ้าชายโบเสสลาฟ ให้มาถูกจับตัวเป็นตัวประกันไว้
979 อภิเษก ครั้งที่ 2 กับโอด้า ไดทริชอฟน่า (Oda Dietrichovna) บุตรสาวของเคานต์ไดทริช (Count Dietrich von Haldensleben, Margrave of Northern Mark) การอภิเษกครั้งนี้ ให้กำเนิดพระโอรส, พระธิดาอีกสามองค์ คือ เมียสโก้ (Mieszko), ซัฟยาโตโพลก์ (Svyatopolk) และแลมเบิร์ต (Lambert)
986 เมียสโก้ได้มีโอกาสพบกับจักรพรรดิอ๊อตโต้ ที่ 2 (Otto II) ที่กูดรินบูร์ก ซึ่งเมียสโก้ได้ตามเสด็จจักรพรรดิฮ๊อตโต้ ที่ 2 ไปในสงครามต่อเชคด้วย 
990 โปแลนด์ได้ผนวกซิเลสเซีย (Silesia) และเลซเซอร์โปแลดน์ (Lesser Poland) (ไม่รวมคราคอฟ (Krakow)) เอาไว้

992 25 พฤษภาคม, สวรรคต ในโบซนัน (Poznan) ก่อนจะสวรรคตไม่นานเมียสโก้ พระราชินี พร้อมด้วยพระโอรสพระธิดา ได้ร่วมกันได้ออกพระราชสาสน์ Dagome iudex ที่มีพระราชประสงค์ประกาศให้โปแลนด์เป็นดินแดนในอารักขาของพระสันตะปาปา
Don`t copy text!