Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Egas Moniz

แอนโตนิโอ อีกัส โมนิซ (António Egas Moniz)
โนเบลการแพทย์ 1949 จากการพัฒนาการผ่าตัดแบบ Lobotomy เพื่อรักษาผู้ป่วยจิตเวช
โมนิช เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1874  ในอแวนซ่า, โปรตุเกส (Avanca, Protugal)
พ่อของเขาชื่อเฟอร์นันโด้ (Fernando deina Rezende Abreu) และแม่ชื่อมาเรีย (Maria do Rosario de Almeida e Sousa)
โมนิชมีชื่อจริงว่า António Caetano de Abreu Freire de Rezende แต่ว่าเติม Egas Moniz เข้าไป เพราะว่าพ่อของเขาและลุงของเขา เชื่อว่าตระกูลสืบเชื้อสายมาจาก อีกัส โมนิช (Egas Moniz de Riba Douro)  คฤหบดีใหญ่ในอดีตของโปตุเกส
ตอนเด็กโมนิซ เรียนหนังสือกับลุงของเขาที่ชื่อว่าแคตาโน่ (Abbe Caetano de Pina Rezende Abreu Sa Freire)  ซึ่งเป็นนักบวช ก่อนที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนโจเซ รามอส (Escola do Pafre Jose Ramos) ในปารดิลโฮ (Pardiho) และต่อมัธยมที่เซนต์ฟิล (St. Fiel College)
ต่อมาได้เข้าเรียนคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยเคียมบร้า (Coimbra University) และเมื่อจบได้สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้
1902 ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเคียมบร้า
แต่งงานกับเอลวิร่า (Elvira de Macedo Dias)
1903 ลงเล่นการเมือง โดยตั้งพรรคเซนทรัลรีพับพลิกัน (Partido Republicano Centrista) ซึ่งเขาได้รับเลือกเข้าไปอยู่ในสภาของโปรตุเกส แต่แม้ว่าจะเล่นการเมืองเขายังทำงานสอนหนังสือและงานแพทย์อยู่ด้วย
1911 ย้ายมาเป็นศาสตราจารย์ด้านระบบประสาท ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นมาใหม่ของมหาวิทยาลัยลิสบอน (Lisbon University)
1917 ได้รับตำแหน่งทูตโปรตุเกสประจำประเทศสเปน แต่ว่าไม่นานก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
1919 เป็นผู้นำทีมผู้แทนของโปรตุเกสในการเข้าร่วมประชุมสันติภาพที่กรุงปารีส (Paris Peace Conference)
1920 เลิกเล่นการเมือง
1927 เป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเทคนิค celebral angiography (การจำลองภาพการไหลของกระแสเลือดในสมองส่วนหน้าด้วยการฉีดสี (contrast agent) ) 
1935 ทำการผ่าตัดโลโบโตมี (Lobotomy ~ Leucotome) ร่วมกับจอห์น ฟูลตัน (John Farquhar Fulton) ในผู้ป่วยทางจิต
1936 เขาเขียนรายงานเกี่ยวกับการทำโลโบโตมีกับผู้ป่วยทางจิต 
1939 14 มีนาคม, เขาถูกคนไข้ของตัวเองยิงจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้หลังจากนั้นเขาต้องนั่งอยู่บนรถเข็น
1944 เกษียณจากราชการ
1949 ได้รับรางวัลโนเบล จากการคิดค้น Lobotomy
1950 ก่อตั้งโรงพยาบาลจูลิโอ้ (Julio de Matos Hospital) ซึ่งใช้เป็นศูนย์บำบัดผู้ป่วยทางจิต

1955 13 ธันวาคม, เสียชีวิตในลิสบอน
Don`t copy text!