Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Dyatlov Pass Mystery

Тайна перевала Дятлова

ปี 1959 ในปลายเดือนมกราคม นักศึกษา 10 คน ของสถาบันโพลีเทคนิคอูราล (Ural Polytechnic Institute) ได้เดินทางมาพักผ่อน บริเวณเชิงเขาโคลัต เซียคี (Kholat Syakhi) ทางตอนเหนืองของเทือกเขาอูราล
อิกอร์ เดียทลอฟ (Игорь Алексеевич Дятлов, Igor Dyatlov)
ซิเนียด้า โคลโมโกโรว่า (Зинаида Алексеевна Колмогорова, Zinaida Alekseevna Kolmogorova, b. 12 January 1937)
ลุดมิล่า ดุบินิน่า(Людмила Александровна Дубинина, Lyudmila Dubinina, b.May 12, 1938)
อเล็กซานเดอร์ โกเลวาตอฟ (Александр Сергеевич Колеватов, Alexander Kolevatov, b. 16 November 1934)
รัสเตม สโลโบดิน (Рустем Владимирович Слободин, Rustem Slobodin, b. 11 January 1936)
ยูริ ครีโวนีเชนโก้ (Юрий Алексеевич Кривонищенко, Yuri Krivonischenko, b. 7 February 1935)
ยูริ โดโรเชนโก้ (Юрий Николаевич Дорошенко, Yuri Doroshenko, b. 29 January 29, 1938)
นิโคไล ธีโบ-บริกโนลล์ (Николай Владимирович Тибо-Бриньоль, Nicolai Vladimirovich Thibeaux-Brignolles, b. 8 July 1935)
เซเมียน โซโรตาเรียฟ (Семен (Александр) Александрович Золотарёв, Semyon Zolotariov, b. 2 February 1921)
ยูริ ยูดีน  (Юрий Ефимович Юдин, Yuri Yudin,b. 19 July 19, 1937, died 27 April 2013)

28 มกราคม, ยูริ ยูดีน เป็นคนเดียวที่เมื่อเดินทางมาถึงเกิดอาการป่วยเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น จึงได้ขอถอนตัวกลับมาก่อน แต่เพื่อนที่เหลืออีก 9 คน ยังมุ่งหน้าไปปีนเขาต่อ
20 กุมภาพันธ์, ทีมกู้ภัยได้รับการติดต่อจากญาติของนักศึกษาและยูริ ให้ช่วยออกค้นหา
26 กุมภาพันธ์, ทีมกู้ภัย ค้นพบแคมป์ที่พักของนักศึกษากลุ่มดังกล่าวที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ โดยที่เต้นท์มีร่องรอยเสียหาย โดยมีรอยเหมือนกับว่ามีใครใช้มีดกรีดออกมาจากด้านใน แล้วมีร่องรอยว่านักศึกษาบางคนวิ่งหนึออกมาจากเต้นท์แบบเท้าเปล่า มีบางคนเท่านั้นที่สวมถุงเท้า ในขณะที่สภาพภายนอกมีหิมะปกคลุมหนา แต่ว่าไม่มีร่องรอยว่ามีใครบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของแคมป์
ไม่นานทีมกู้ภัยได้ขยายการค้นหาในรัศมีรอบๆ เต้นท์ร้าง และครึ่งกิโลเมตรออกไป ได้พบร่างของ นักศึกษาสองคน (ครีโวนีเซนโก้, โดโรเชนโก้) ที่ศพอยู่ในสภาพสวมแต่กางเกงใน นอนอยู่ใกล้กองไฟใต้ต้นซีดาร์ใหญ่ และห่างจากต้นซีดาร์ออกไปครึ่งกิโล ก็พบร่างของนักศึกษาอีก 3 คน (เดียทลอฟ, โคลโมโกโรว่า, สโลโบดิน)  แต่ละศพอยู่ห่างกันราวหนึ่งร้อยเมตร  เชื่อว่าพวกเขาพยายามจะมุ่งกลับเต้นท์ที่พัก
เมื่อมีการค้นพบศพของนักศึกษา 5 คนแรก การชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย จึงได้สันนิษฐานว่าพวกเขาเสียชีวิตจากอากาศหนาวทำให้อุณภูมิร่างกายลดตำ่จนเสียชีวิต

ทีมกู้ภัยใช้เวลาอีกสองเดือน จนกระทั้งในเดือนพฤษภาคม มีการค้นพบอีก 4 ศพที่เหลือ โดยที่ศพของพวกเขาอยู่ห่างจากต้นซีดาร์เข้าไปในช่องเขาในป่าที่ห่างออกไปแค่ร้อยเมตร  อยู่ในสภาพที่สวมเสื้อผ้า แต่ว่า 3 ใน 4 ศพนี้ พบว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง  ศพหนึ่งกระโหลกศรีษะร้าว อีกสองศพกระดูกซี่โครงร้าว ดร.บอริส (Dr.Boris Vozrozhdenny) ซึ่งเป็นผู้ชันสูตรศพ บอกว่าพวกเขาน่าจะถูกกระทำจากแรงที่มีพลังงานสูงเทียบเท่ากับถูกรถชน เพราะร่างกายภายนอกดูปกติ ในขณะที่ภายในถูกทำลาย
แต่มีเพียงศพของดุบินิน่า ที่มีบาดแผลภายนอกโดย ลิ้น, ดวงตา และริมฝีปากบางส่วนหายไป
การชันสูตรยังพบว่าเสื้อผ้าของทั้งสี่ศพสามารถตรวจระดับกัมมันตรังสีได้สูงกว่าปกติ และพวกเขาทั้ง 9 คน เสียชีวิตภายในเวลา 6-8 ชั่วโมงหลังจากกินอาหารมื้อสุดท้าย

มีทฤษฏีบอกว่าพวกเขาถูกหิมะไหลมากลบเต้นท์ที่พัก จึงได้ตัดเต้นท์ออกมาจากด้านใน ก่อนที่จะพยายามจะเดินออกมาเพื่อหาความช่วยเหลือเพื่อว่ามีชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง จนกระทั้งมาถึงต้นซีดาร์ แต่ว่าอุณภูมิต่ำขนาด -25 องศาเซลเซียลทำให้พวกเขาเสียชีวิต นักศึกษากลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บน่าจะเกิดจากการตกลงไปในช่องเขา
แต่ก็มีความเชื่อแนวเรื่องลึกลับเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้  มีนักปีนเขาอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไป 50 กิโลเมตร อ้างว่าเห็นแสงสีส้มเหนือจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีผู้เห็นแสงดังกล่าวอีกหลายคนยืนยันว่าเห็นแสงสีส้มจริงเช่นกัน

Don`t copy text!