Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Aristotle

อริสโตเติ้ล (Αριστοτέλης)

อริสโตเติ้ล เกิดในปี 384 BC ในเมืองสตากิร่า , เขตมาซิโดเนีย, กรีซ(Stagira, Macedonia, Greece)  พ่อของเขาชื่อไนโคมาชัส (Nicomachus) เคยเป็นแพทย์ประจำพระองค์ของกษัตริย์อมินตัส แห่งมาเซดอน (King Amyntas of Macedon) จึงเชื่อกันว่าอริสโตเติ้ลใช้ชีวิตในวัยเด็กของเขาภายในพระราชวังมาเซโดเนีย
369BC พ่อของอริสโตเติ้ลเสียชีวิต  หลังจากพ่อเสียชีวิตไปแล้วอริสโตเติ้ลอยู่ในการอุปถัมถ์ของโปรซีนัส (Proxenus)
367BC เมื่ออริสโตเติ้ลอายุได้ประมาณ 17 ปี เขาถูกส่งมาเรียนหนังสือที่เอเธนส์ อริสโตเติ้ลได้สมัครเข้าเรียนที่อคาเดมี (Academy) ของเพลโต (Plato)
347BC เมื่อเพลโตเสียชีวิต อริสโตเต้ิลจึงออกจากอคาเดมีเพราะว่ามีความขัดแย้งกับสปูซิพปัส (Speusippus) หลานของเพลโตที่สืบทอดอคาเดมีต่อจากเพลโต
อริสโตเติ้ลออกจากเอเธนส์ เและได้ติดตามเซโนเครเตส (Xenocrates) ไปยังเมืองแอสซอส (Assos) ในเอเชียไมเนอร์ (Asia Minor) เพื่อทำงานให้กับกษัตริย์เฮอร์เมียส (Hermias of Atarneus)
ช่วงเวลาที่เขาสนใจเกี่ยวกับการศึกษาส่ิงมีชีวิตในทะเล บางครั้งเขาใช้เวลาออกเดินทางพร้อมกับลูกศิษย์ชื่อธีโอฟรัสตัส (Theophrastus) ไปยังเกาะเลสบอส (Lesbos island) เพื่อหาข้อมูล
ระหว่างนี้อริสโตเติ้ลได้แต่งงานกับไพเธียส (Pythias) พระญาติของกษัติรย์เฮอร์เมียส  พวกเขามีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนโดยที่ลูกสาวมีชื่อเดียวไฟเธียสเช่นเดียวกับแม่
345BC เมื่อเฮอร์เมียพ่ายแพ้ในสงครามให้กับเปอร์เซีย อริสโตเติ้ลจึงได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองไมติลีน (Mytilene) บนเกาะเลสบอส
343BC หลังจากกษัตริย์เฮอร์เมียสสวรรคต อริสโตเติ้ลได้รับพระราชสาสน์จากกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งมาเซดอน (Philip II of Macedon) เชิญให้ไปเป็นพระอาจารย์ให้กับพระโอรสของพระองค์ ซึ่งก็คืออเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) ซึ่งขณะนั้นอเล็กซานเดอร์มีอายุประมาณ 13 ชันษา นอกจากอเล็กซานเดอร์แล้ว อริสโตเต้ิลยังได้สอนคนอื่นๆ ด้วย อย่าง พโตเลมี (Ptolemy) และคาสซานเดอร์ (Cassander)
335BC อริสโตเติ้ลเดินทางกลับมายังเอเธนส์ และได้ตั้งโรงเรียนของตัวเองขึ้นมาโดยรู้จักกันในชื่อไลเซียม (Lyceum) โดยที่เขาจะแบ่งเวลาสอนเป็นสองช่วง คือตอนเช้าสำหรับลูกศิษย์ใกล้ชิด และตอนบ่ายสำหรับผู้สนใจทั่วไป ช่วงเวลาที่เขาเปิดไลเซียมในเอเธนส์กว่า 12 ปี นี้จึงเชื่อว่าเป็นช่วงที่เขาสร้างและสั่งสมองค์ความรู้ต่างๆ ขึ้นมามากที่สุด

ต่อมาเมื่อภรรยาของเขาเสียชีวิต อริสโตเติ้ลมีความสัมพันธ์กับเฮอร์ไพริส (Herpyllis of Stagira) และมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่งชื่อไนโคมาซัส ตามชื่อพ่อของอริสโตเติ้ล  ทั้งนี้สารานุกรมซุด้า (Suda) ในศตวรรษที่ 10 ยังได้เขียนเอาไว้ว่าอริสโตเติ้ลยังมีลูกชายอีกคนชื่อพาเลียเฟตัส (Palaephatus of Abydus)
323BC เมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราช สวรรคตอย่างกระทันหัน ทำให้รัฐบาลที่ฝักใฝ่มาเซโดเนียในเอเธนส์ถูกโค่นล้มลงตามไปด้วย และเกิดกระแสต่อต้านอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมาเซโดเนียในเอเธนส์ ทำให้อริสโตเติ้ลเองซึ่งเป็นชาวมาเซโดเนียก็ต้องออกจากเมือง อริสโตเต้ิลจึงเดินทางไปอยู่ที่บ้านของมารดา ในเมืองชาลคิส (Chalcis, Euboea island)
322BC ตุลาคม, เสียชีวิต โดยก่อนเสียชีวิตเขาบ่นว่ามีอาการปวดที่บริเวณลำไส้

ผลงานเขียนของอริสโตเติ้ล ถูกส่งมอบให้กับลูกศิษย์ของเขาคือธีโอฟัสตัส (Theophrastus) ซึ่งสืบทอดโรงเรียนของอริสโตเติ้ล ต่อมาธีโอฟรัสตัส ได้มอบหนังสือที่เขาสะสมไว้ให้กับเนเลียส (Neleus) ลูกศิษย์ ผลงานของอริสโตเติ้ลต่อมาถึงตกไปถึงทายาทรุ่นต่อๆ มาของเนเลียส ซึ่งเอกสารจำนวนหนึ่งมีการเสื่อมสภาพไปตามเวลา
จนกระทั้งปี 100BC อเลปิคอน (Apelicon of Teos) นักสะสมหนังสือได้ซื้อผลงานเขียนของอริสโตเต้ิลไป และนำกลับไปเอเธนส์
86BC เอเธนส์ถูกซุลล่า (Sulla) แม่ทัพของโรมยึดครอง ซุลล่าจึงนำผลงานของอลิสโตเติ้ลกลับไปไว้ยังหอสมุดอเลปิคอน (Library of Apellicon)กรุงโรม
72 BC ไทแรนเนียน (Tyrannion of Amisus) นักภาษาศาสตร์ชาวกรีกซึ่งถูกจับตัวมายังโรม ได้มีโอกาสอ่านงานของอริสโตเติ้ล และเขาทำการเรียบเรียงผลงานของอริสโตเติ้ลขึ้นมาใหม่
60 BC ฉบับเวอร์ชั่นของไทแรนเนียน ถูกแอนโตรนิคัส (Andronicus of Rhodes) นักปรัชญานำมารวมรวบเป็นผลงานของอริสโตเติ้ลขึ้นมาใหม่ โดยที่ฉบับของแอนโตรนิคัสเป็นเอกสารหลักที่อ้างอิงถึงงานเขียนของอริสโตเติ้ลในปัจจุบัน

Don`t copy text!