Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Diogenes of Sinope

ดิโอจิเนส แห่ง ไซโนป (Διογένης ο Κυνικός)
cynical philosophy

ดิโอจิเนส เกิดในปี 412 BC (ปีเกิดไม่แน่ชัด)  ในไซโนป (Sinope) เมืองชายฝั่งทะเลดำ ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรีก ปัจจุบันอยู่ในประเทศตุรกี พ่อของเขาชื่อฮิเซเซียส (Hicesias)  
เมื่อโตขึ้นมาดิโอจิเนสได้ช่วยพ่อเขาทำงานในดูแลการผลิตเงินซึ่งเป็นงานของรัฐ  ต่อมาพวกเขาพ่อลูกถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์ จนทำให้ดิโอจิเนสและพ่อถูกเนรเทศออกจากเมือง
สาเหตุหนึ่งที่ดิโอจิเนสทำเหรียญปลอม เล่าเอาไว้ว่า…ดิโอจิเนสได้พบกับนักพยากรณ์ (Oracle at Delphi) ซึ่งเขาได้รับคำทำนายที่บอกให้เขาเปลี่ยนแปลงค่าของเงิน แต่ว่าดิโอจิเนสเข้าใจว่าบอกให้เขาทำเงินปลอม
หลังจากถูกเนรเทศ ดิโอจิเนส เดินทางมาอาศัยอยู่ในเอเธนส์กับทาสคนหนึ่งชื่อ เมเนส (Menes) แต่ว่าไม่นานเมเนสก็ทิ้งเขาไป ดิโอจิเนสจึงอยู่ลำพังคนเดียวโดยอาศัยนอนในไหขนาดใหญ่
เขาได้บังเอิญได้ฟังคำสอนของแอนติสธีเนส (Antisthenes) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของโสเครตีส (Socrates) ทำให้เขาอยากจะเรียนรู้จากแอนติสธีเนส แต่ว่าในตอนแรกกลับถูกทำร้ายจากสาวกของแอนติสธีเนส ทำให้ดิโอจิเนส พูดว่า “ทุบเลย, แล้วท่านจะได้รู้ว่าไม่มีไม้ใดที่แข็งทนพอที่จะทำให้ข้าอยู่ห่างจากตัวท่านได้ ตราบเท่าที่ข้ายังรู้ว่าท่านมีเรื่องที่จะพูดอยู่”  ในที่สุดแอนติสธีเนสก็ได้ยอมรับให้ดิโอจิเนสเป็นศิษย์
แอนติสธีเนส เป็นคนแรกที่วางเค้าโครงของปรัชญาซึนิค (Cynicism) ซึ่งคำว่า ซีนิค มาจากภาษากรีกโบราณ คูนิคอส (κυνικός ) ที่แปลว่า คล้าย-สุนัข (dog-like) เป้าหมายของซีนิคคือ ยูไดโมเนีย (Eudiamonia~human flourishing)  ซึ่งเชื่อว่าเป็นความสุขสูงสุดของมนุษย์ โดยการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติและพอเพียง และเป็นอิสระจากการแสวงหาความร่ำรวย, อำนาจ, หรือชื่อเสียง
ซีนิคซิซึม จึงเปรียบตัวเองเหมือนสุนัข และดิโอจิเนสดำรงชีวิตด้วยการนอนในไห เดินเท้าเปล่า
มีอยู่ครั้งหนึ่ง โสเครตีสได้ถาม พลาโต้ (Plato) ว่าความหมายของมนุษย์ (Man) คืออะไร พลาโต้บอกว่า คือ สัตว์ที่เดินสองขาไม่มีขน (featherless bipeds)  ดิโอจิเนสพอได้รู้อย่างนั้นเขาก็ถอนขนไก่ตัวหนึ่งออกจนหมดแล้วนำมาที่โรงเรียน(Academy) ของพลาโต้ แล้วตะโกนบอกว่า “เอาไป ข้าซื้อมนุษย์มาให้ท่านตัวหนึ่ง” หลังจากนั้นพลาโต้จึงได้เพิ่มนิยามใหม่เติมเข้าไปว่า “…และมีเล็บแบน (with broad flat nails)”
ต่อมาดิโอจิเนสถูกโจรสลัดไปขายเป็นทาสบนเกาะครีต (Crete) เขาถูกซื้อไปโดยซีเนียเดส (Xeniades) ที่มาจากเมืองโครินธ์ (Corinth) โดยที่ดิโอจิเนสได้ทำหน้าที่ดูแลและสอนหนังสือให้กับลูกชายสองคนของซีเนียเดส  
ในโครินธ์นี้ดิโอจิเนสบังเอิญได้พบกับอเล็กซานเดอร์ (Alexander the Great) โดยที่อเล็กซานเดอร์ได้เดินมาถามหาบอกว่าอยากจะพบนักปราญช์ที่ยิ่งใหญ่สักคนหนึ่ง แต่ขณะนั้นดิโอจิเนสกำลังนั่งรับแสงแดดในตอนเช้า จึงได้บอกว่าอเล็กซานเดอร์ว่า “จงอย่ายืนบังแสงแดด”  
อเล็กซานเดอร์ จึงรับสั่งอย่างโมโห “ถ้าข้าไม่ใช่อเล็กซานเดอร์, ข้าคงอยากจะเป็นดิโอจิเนส”
ดิโอจิเนส ตอบ “ถ้าข้าไม่ใช่ดิโอจิเนส, ข้าก็อยากจะเป็นดิโอจิเนสอยู่ดี”
เล่ากันว่าดิโอจีเนสอาศัยอยู่ที่โครินธ์ในบ้านของซีเนียเดสจนกระทั้งเขาแก่ชราและเสียชีวิต
323 BC 10 มิถุนายน, จากงานเขียนนของดิโอจิเนส ลัวเตียส (Diogenes Laërtius) ดิโอจิเนส เสียชีวิต ในโครินธ์ วันเดียวกันกับที่อเล็กซานเดอร์มหาราช สวรรคต
สาเหตุการตายมาจากการป่วยเพราะกินปลาหมึกดิบ หรืออีกเรื่องหนึ่งบอกว่าเขาถูกสุนัขกัดจนล้มป่วย และก่อนตายเขาบอกว่าให้เอาศพของเขาไปโยนที่ชานเมืองให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า

Don`t copy text!