โซเรน เคียรคีการ์ด (Søren Kierkegaard)
father of existentialism
โซเรน เกิดในโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1813 พ่อของเขาชื่อไมเคิ้ล (Michael Pedersen Kierkegaard) ส่วนแม่ชื่อเอเน่ (Ane Sorensdatter Lund Kierkegaard) เดิมก่อนที่จะแต่งงานเธอทำงานเป็นแม่บ้าน เอเน่เป็นภรรยาคนที่สองของไมเคิ้ล และพวกเขามีลูกด้วยกันเจ็ดคน แต่ว่าห้าคนได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังไม่เข้าช่วงวัยรุ่น
วัยเด็กของโซเรนค่อนข้างลำบาก เพราะไมเคิ้ลพ่อของเขาเดิมเป็นเพียงคนเลี้ยงสัตว์ และมักจะต่อว่าพระเจ้าในโชคชะตาของตัวเอง จนกระทั้งเมื่อโซเรนอายุได้ 12 ปี ครอบครัวจึงมีฐานะดีขึ้นจนร่ำรวยเมื่อพ่อประสบความสำเร็จในธุรกิจขายถุงน่อง
1821 เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนบอร์เกอร์ดีดสโกเลน (Borgerdydskolen~ School of Civic Virtue) โรงเรียนชายที่มีชื่อเสียง
1930 เข้าเรียนต่อทางด้านปรัชญาและศาสนาที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเก้น (Copenhagen University)
1834 31 กรกฏาคม, แม่ของเขาเสียชีวิต ขณะที่เธออายุ 66 ปี
1837 เขาหมั่นกับเรจีน โอลเซ่น (Regine Olsen) ขณะนั้นเธอมีอายุ 18 ปี มาจากครอบครัวที่มีฐานะในโคเปนเฮเก้น
1838 8 สิงหาคม, พ่อของเขาเสียชีวิต ขณะอายุได้ 82 ปี
1841 11 สิงหาคม, ถอนหมั่นกับเรจีน เขาให้เหตุผลว่าตัวเขาเองมีอาการป่วยด้วยโรคซึมเซา (melancholia) และตัวเขขาเองมีสุขภาพไม่แข็งแรง
29 สิงหาคม, สอบวิทยานิพนธ์ที่เขาเขียน เรื่อง On the Concept of Irony with Continual Reference to Socrates ซึ่ง 20 ตุลาคม, เขาจบปริญญาโทโดยได้วุฒิศิลปะศาสตร์ (Magister Artium)
1843 20 กุมภาพันธ์ ,Either/Or ผลงานที่ถือว่าเป็นสุดยอดของเขาพิมพ์ออกมาระหว่างที่เขาอยู่ในเบอร์ลิน ผลงานเขียนของโซเร่นช่วงปี 1843-1846 เขาจะเขียนโดยใช้นามแฝงแทน อย่าง Either/Or นี้ เขาใช้นามปากกาว่า Victor Eremita
16 พฤษภาคม, ตีพิมพ์ Two Upbuilding Discourses,1843
1845 22 ธันวาคม, (The Corsair Affair) โมลเลอร์ (P. L. Møller) ซึ่งได้เขียนบทความโจมตีแนวคิดของโซเร่นลงในแม็กกาซีน The Corsair ต่อมาโซเร่นจึงได้เขียนตอบโต้กับโมลเลอร์ลงใน The Fatherland
1855 ช่วงปั่นปลายก่อนที่โซเรนจะเสียชีวิต เขาได้เขียนบทความโจมตีคริสต์ลูเธอลันของเดนมาร์ก (Christendom) ขณะนั้น ลงใน The Fatherland จำนวนหลายคอลัมน์ อย่างประเด็นเรื่องที่กฏหมายกำหนดให้ทุกคนที่เกิดมาเป็นคริสต์ บทความของเขาเกี่ยวกับพระเจ้าและศาสนาจึงเป็นประเด็นร้อนในสังคมจนกระทั้งเขาเสียชีวิต
2 ตุลาคม, เขาล้มหมดสติระหว่างที่เดินอยู่บนถนน จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเฟรเดริก (Frederik’s Hospital)
11 พฤศจิกายน, โซเร่นเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลเฟรเดริก