Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Bram Stoker

อับราฮัม สโตเกอร์ (Abraham Stoker)

ผู้เขียน Dracula
แบรม สโตเกอร์ เกิดเขตคลอนทาร์ฟ กรุงดับลิน ไอร์แลนด์ (Clontarf, Dublin, Ireland) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 1847 พ่อของเขามีชื่อเดียวกับลูกชาย คือชื่ออับราฮัม สโตเกอร์ (Abraham Stoker, 1799) ส่วนมารดาชื่อชาร์ลอตต์ (Charlotte Mathida Blake Thornley) เธอเป็นคนจังหวัดโดนกัล (Donegal country) ที่อยู่ตอนเหนือสุดของไอร์แลนด์ พวกเขาแต่งงานกันในปี 1844   ครอบครัวของสโตเกอร์ มีพี่น้อง 7 คน โดยสโตเกอร์เป็นลูกคนที่ 3
ครอบครัวของสโตเกอร์ เป็นโปแตสแตนต์ พวกเขามักพาลูกไปโบสถ์คลอนทาร์ฟ (Clontarf parish church ) 
สโตเกอร์เป็นเด็กที่อ่อนแอมาตั้งแต่เกิด เขาต้องนอนอยู่บนเตียงเกือบตลอดเวลาจนกระทั้งเมื่ออายุใกล้ 7 ปี สุขภาพก็แข็งแรงขึ้น ตอนเด็กสโตเกอร์ชอบฟังแม่ของเขาเล่านิทานและเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง สโตเกอร์ฟังใจกับเรื่องการระบาดของอหิวาต์ครั้งใหญ่ในปี  1832 (Cholera epidemic 1832) ในอังกฤษ ซึ่งกินชีวิตผู้คนหลายหมื่นคน และยังระบาดทั่วยุโรปนานหลายปีทำให้มีผู้เสียชีวิตนับล้านคน 
1864 สโตเกอร์ เข้าเรียนหนังสือที่วิทยาลัยทรินิตี้ (Trinity College) ในดับลิน เขาเรียนหนังสือเก่งและเป็นนักกีฬา ระหว่างที่เรียนนี้เขาเข้าร่วมกับสมาคมประวัติศาสตร์ (The Hist, College Historical Society) และยังเป็นประธานของสมาคมปรัญชา (The Phil, University Philosophical Society) ซึ่งกับ The Phil  สโตเกอร์มีผลงานเขียนบทความ Sensationalism in Fiction and Society 
1870  เรียนจบจากทรินิตี้ โดยได้ใบประกาศเกียรติคุณในวิชาคณิตศาสตร์ หลังจากนั้นได้เข้าทำงานให้กับรัฐ (Irish Civil Service) ซึ่งเขาทำงานอยู่ที่นี่นานนับสิบปี ระหว่างนี้ได้ทำงานเขียนบทความเป็นนักวิจารณ์ละคร ให้กับหนังสือพิมพ์ The Dublin Mail ซึ่งการไปชมละครเวที่ทำให้เขาได้รู้จักกับนักแสดงชาวอังกฤษชื่อ  เฮนรี่ เออร์วิ่ง (Henry Irving) 
1878 4 ธันวาคม แต่งงานกับ ฟลอเรนซ์  บาลคอมบ์ (Florence Balcombe) เธอนักแสดงหญิง ที่มีหน้าตาสวย ,  หลังแต่งงานไม่ถึงอาทิตย์ทั้งคู่บ้ายมาอยู่ในลอนดอน (Cheyne Walk, Chelsea, London) ซึ่งสโตเกอร์ได้ตอบตกลงที่จะมาทำงานเป็นเลขาฯ ให้กับเออร์วิ่ง และเป็นผู้จัดการของโรงละครไลเคียม (Lyceum Theatre) ที่เออร์วิ่งเป็นเจ้าของ เขาทำงานอยู่ที่นี่นานถึง 27 ปี
1879 31 ธันวาคม โนเอล (Noel Thornley Stoker) ลูกชายคนเดียวของสโตเกอร์ เกิดขึ้นมา
1881 ผลงานหนังสือเล่มแรกของสโตเกอร์ Under the Sunset เป็นหนังสือเล่มแรกของเขา เป็นผลงานเขียนรวมเรื่องสั้น 8 เรื่องที่สโตเกอร์แต่ง
1897 Dracula , พิมพ์ออกมาในวันที่  18 พฤษภาคม โดยการที่สโตเกอร์จะเขียนแดร็กคูล่า เขาใช้เวลาหลายปีในการเก็บข้อมูล สโตเกอร์เดินทางท่องเที่ยวไปหลายประเทศในยุโรป และประทับใจกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับแวมไพร์ แม้ว่าว่าสโตเกอร์เองนั้นไม่เคยเดินทางไปเยื่อนยุโรปตะวันออกหรือทรานซิลเวอร์เนียเลย ส่วนหนึ่งของแรงบันดาลของเขามาจากบทความ Transylvanis Superstitions (1885) ของอีมิลี เกราร์ด (Emily Gerard)  , ปราสาทสเลนส์ (Slains Castle) ในสก็อตแลนด์ และนวนิยายเกี่ยวกับแวมไพน์ เรื่อง คาร์มิลล่า (Carmilla) ของเลอ ฟานู (Joseph Sheridan Le Fanu) 
The Un-Dead เป็นชื่อเดิมที่สโตเกอร์ตั้งใจจะใช้เป็นชื่อหนังสือ และแดร็กคูล่า เดิมจะใช้ชื่อว่าเคาน์แวมไพน์  ก่อนที่ภายหลังเขาจะเปลี่ยนมาใช้แดร็กคูล่า โดยบุคลิกของเคาน์แดร็กคูล่า นั้นมาจากบุคคลิกของเออร์วิ่ง แต่ว่าสโตเกอร์รู้เรื่องประวัติของ วล๊าด ที่ 3 (Vlad III Dracula , The Impaler) ดีแค่ไหนนั้น ยังเป็นที่ถกเถียงกัน ในภาษาโรมันเนีย Dracul หมายถึง Devil (ปีศาจ) และยังหมายถึง มังกร (Dragon)  วล๊าด ที่ 3 นั้นเป็นวีรบุรุษของชาวโรมาเนีย ที่ต่อสู้กับการรุกรานของพวกเติร์ก (อ๊อตโตมาน) ในช่วงสงครามครูเสด  แต่ว่ามีการจับตัวละครแดร็กคูล่า มาเชื่อมกับวล็าด ที่ 3 ในหนังสือ In Seach of Dracula (1972)   
1912 เสียชีวิตในวันที่ 20 เมษายน  ในลอนดอน ด้วยอาการเส้นเลือดในสมอง , ศพของสโตเกอร์ถูกนำไปเผา และอัษฐิของเขาถูกเก็บไว้ที่ Golders Green Crematorium ในลอนดอน 
1914 ฟลอเรนซ์ ภรรยาม่ายของสโตเกอร์ นำต้นฉบับส่วนที่ไม่ได้พิมพ์ของแดร็กคูล่า มาพิมพ์ในชื่อ The Dragcular’s Guest 
นิยาย
  • The Primrose Path (1875)
  • The Snake’s Pass (1890)
  • The Watter’s Mou (1895)
  • The Shoulder of Shasta (1895)
  • Dracula (1897)
  • Miss Betty (1898)
  • The Mystery of the Sea (1902)
  • The Jewel of Seven Stars (1903)
  • The Man (1905)
  • Lady Athlyne (1908)
  • Snowbound : The REcord of a Theatrical Touring Party (1908)
  • The Lady of the Shroud (1909)
  • The Lair of the White Worm (1911)
Don`t copy text!