Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Peter Carl Faberge

Get Adobe Flash player

ปีเตอร์ คาร์ล กุสตาโววิช  ฟาเบิร์ก  (Петер Карл Густавовия Фаберже)

คาร์ล เกิดในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก วันที่ 30 พฤษภาคม 1846 ในครอบครัวเชื้อสายเยอรมันเอสโตเนีย พ่อของเขาเป็นช่างทำเครื่องประดับ ชื่อกุสตาฟ ฟาเบิร์ก (Gustav Faberge) และแม่ชื่อชาร์ลอตต์ (Charlotte Jungstedt) เธอเป็นชาวเดนมาร์ก
กุสตาฟ นั้นเปิดร้านในเครื่องประดับ เฮาส์ออฟฟาเบิร์ก (House of Faberge) ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กมาตั้งแต่ปี 1842 แต่ว่าไม่นานเขาก็พาครอบครัวเดินทางไปยังเดรสเดน ในเยอรมัน โดยทิ้งธุรกิจในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กให้เพื่อนเป็นผู้ดูแล 
คาร์ลได้ฝึกการทำเครื่องประดับจากพ่อและได้ช่างทำเครื่องประดับชื่อ โจเซฟ ไฟรด์แมน (Joseph Friedman)เป็นอาจารย์สอนระหว่างที่เขาเดินทางไปเรียนที่แฟรงเฟิร์ต  
1870 คาร์ลรับสืบทอดกิจการจากพ่อ 
1872 ตอนอายุ 26 ปี เขาเดินทางกลับมายังรัสเซีย เขาฝึกงานอยู่ในบริษัทของพ่อ โดยที่มีฮีสเกียส เพนดิน (Hiskias Pendin) เป็นผู้รับหน้าที่ดูแล , ระหว่างนี้คาร์ลได้แต่งงานกับจูเลีย จาคอปส์ (Augusta Julia Jacobs) ต่อมาพวกเขามีลูกด้วยกันสี่คน ยูจีน (Eugene) อเกธอน (Agathon) อเล็กซานเดอร์ (Alexander) และนิโคลัส (Nicholas)
1882 อีสเกียส เสียชีวิต คาร์ลได้รับหน้าที่เป็นนายช่างใหญ่ควบคุมการผลิตทำเครื่องประดับอย่างเต็มตัว , เครื่องประดับของเฮาส์ออฟฟาเบิร์ก ถูกนำไปแสดงในเทศกาลแพน-รัสเซีย (Pan-Russian exhibition) ในกรุงมอสโคว์ ซึ่งซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 3 ทรงเสด็จทอดพระเนตรภายในงานและได้ประทับใจกับเครื่องประดับจากเฮาส์ออฟฟาเบิร์ก จึงได้ให้ชื่อเสียงของร้านโด่งดัง คาร์ลได้รับพระราชทานเหรียญรางวัล St. Stanisias 
1885 Hen เป็นไข่ฟาเบิร์ก ใบแรกที่คาร์ลทำขึ้น ตามคำสั่งของซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 3 สั่งทำเพื่อเป็นของขวัญให้กับซาร์ดิน่า มาเรีย (Empress Maria Fedorovna) ในวันอีสเตอร์  Hen ทำมาจากทองคำ ทำให้รูปทรงให้เหมือนกับไข่ เครือบจนมีสีแดงเหมือนสตอเบอร์รี่ แล้วประดับด้วยเพชร  เมื่อเปิดขึ้นมาจะเจอกับไข่สีทองอยู่ภายใน และภายในไข่สีทองบรรจุจี้สำหรับสร้อยคอที่ทำเป็นรูปของเจ้าชายนิโคลัส (นิโคลัส ที่ 2)  ของขวัญเป็นที่ถูกพระทัยของซาร์ดิน่ามาเรียมาก ทำให้ในปีต่อๆ ไปฟาเบิร์กจึงได้รับคำสั่งให้ผลิตไข่ฟาเบิร์กอย่างน้อยปีละใบ เพื่อให้เป็นของขวัญแก่แขกคนสำคัญ โดยที่ระยะหลังร้านฟาเบิร์กสามารถออกแบบได้อย่างอิสระ โดยที่แม้แต่ซาร์เองก็ไม่ทราบว่ามีลูกเล่นอย่างไร
1899 มีการสร้างอาคารสำนักงานของฟาเบิร์กในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก โดยสถาปนิกชื่อ คาร์ล สมิดต์ ( Karl Schmidt)
1900 ร้านฟาเบิร์กเดินทางไปออกร้านในงานเวิร์ดแฟร์ในกรุงปารีส ในฐานะบริษัทเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ความสำเร็จของการออกร้าน ทำให้คาร์ลได้รับรางวัลชั้นอัศวิน(Knight of the Legion of Honour) จากทางการฝรั่งเศส
1916 เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นรัสเซีย โดยมีมูลค่า 3 ล้านรูเบิ้ล 
1918 รัฐบาลคอมมิวนิสต์ยึดกิจการเป็นเป็นสมบัติของรัฐ , พฤศจิกายน คาร์ล ต้องหนีออกจากรัสเซียด้วยขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้ายจากวิ่งมายังกรุงริก้า แลตเวีย ก่อนที่จะหนีไปยังเยอรมัน คาร์ลไปอาศัยอยุ่ในเมืองแบด ฮอมเบิร์ก (Bad Homburg) ก่อนที่ต่อมาจะไปอยู่ที่เวียสบาเดน (Wiesbaden)  ,  ในขณะที่แม่ของเขาและยูจีนลูกชายคนโตของคาร์ล ต้องใช้เลื่อนและเดินเท้าผ่านหิมะออกจากรัสเซียผ่านฟินแลนด์ 
1920  มิถุนายน สมาชิกในครอบครัวฟาเบิร์กมารวมตัวกันได้ใหม่อีกครั้ง ที่เวียสบาเดน แต่ว่าไม่นานคาร์ลก็เสียชีวิต
กันยายน 24 , คาร์ล ฟาเบิร์ก เสียชีวิตในสวิสเซอร์แลนด์ ครอบครัวเชื่อว่าเขาตรอมใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติ
คาร์ล ฟาเบิร์ก ถูกฝังที่สุสาน Grand Jas Cemetery ในเมืองคานน์ ฝรั่งเศส
  ระหว่างปี 1885-1917 ฟาเบิร์กภายใต้การดูแลของคาร์ล ผลิตไข่ฟาเบิร์กกว่า 71 ใบ โดยที่ 62 ใบยังเหลืออยู่จนปัจจุบัน ไข่ Hen  นั้นภายหลังถูกซื้อไปโดย เวคกเซลเบิร์ก (Viktor Vekselberg) นักธุรกิจชาวรัสเวีย , ไข่ฟาร์เบิร์ก ใบสุดท้าย Rothschild Egg ถูกประมูลในปี 2007 ด้วยราคา  8.9 ล้านปอนด์  โดยอเล็กซานเดอร์ อิวานอฟ (Alexander Ivanov) เจ้าของพิพิธภัณฑ์ฟาเบิร์ก ในเยอรมัน 
Don`t copy text!