Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Nabokov ‘s Butterflies

Nabokov’s butterfly theory works

Tags: Vladimir Nabokov , News, Oddly enough, butterfly, World, Russia 28.01.2011, 17:45 Vladimir Nabokov’s butterfly theory has been proven true by scientists, London’s The Daily Mail newspaper writes.The famous writer, who was an amateur lepidopterist, published detailed descriptions of hundreds of species. Читать далее Source: Voice of Russia.

วลาดิมีร์ นาโบกอฟ (Владимир Набоков,Vladimir Nabokov ) เกิดในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเมื่อ 22 เมษายน 1899 พ่อของเขาเป็นนักกฏหมายและนักเขียน ชื่อ วลาดิมีร์ (Vladimir Dmitrievich Nabokov) และมารดาชื่อ อิลิน่า (Elena Ivanovna Ruksvishnikova) นาโบกอฟเป็นพี่ชายคนโตในบรรดาพี่น้อง 5 คน ครอบครัวจัดว่ามีฐานะดี ภายในบ้านพูดกันสามภาษาคือ รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส ช่วงความวุ่นวายในปี 1917 พ่อเขาทำหน้าที่เป็นเลขานุการให้รัฐบาลชั่วคราวในตอนนั้น (Provisional Government) แต่ว่าไม่นานครอบครัวก็ต้องหนีการปฏิวัติของพรรคบอลเชวิคมายังไครเมีย (ใน ยูเครน) จนกันยายน 1918 ก็ย้ายที่หลบภัยอีกครั้งมายัง ลิวาดิย่า (Livadiya) พ่อของเขาทำงานเป็นรัฐมนตรียุติธรรมให้กับรัฐบาลชั่วคราวในไครเมีย แต่เมื่อกองทัพขาว (White Army) พ่ายแพ้ให้กับกองทัพแดงของบอลเชวิคในปี 1919 นาโบกอฟ จึงต้องหนีออกจากสหภาพโซเวียนต โดยครอบครัวของเขามาขึ้นเรือลำสุดท้ายที่ออกจากท่าในเมืองเซวาสโตโพล (Sevasopol) ไปยังประเทศอังกฤษ ในอังกฤษนาโบกอฟ สมัครเข้าเรียนที่วิทยาลัยไตรนิตี้ ของแคมบริด โดยเรียนด้านสลาฟวิคและภาษาโรมัน

1920 ครอบครัวย้ายไปยังเยอรมัน พ่อของเขาได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Rul’ (Rudder) แต่นาโบกอฟยังเรียนอยู่ที่แคมบริด จนอีก 2 ปีต่อมา

มีนาคม 1922 พ่อของนาโบกอฟ ถูกฆาตกรรมในกรุงเบอร์ลิน ทำให้มารดาและน้องสาวย้ายไปอยู่ที่กรุงปราก ส่วนตัวนาโบกอฟ ยังอยู่ในเบอร์ลินซึ่งตอนนั้นเขาเริ่มเป็นที่รู้จักกันในภายใต้นามปากกา V.Sirin ในฐานะนักเขียน นอกจากนั้นเขายั้งต้องการหารายได้ ด้วยการเป็นครูสอนภาษาและสอนการเล่นเทนนิสและมวย

เมษายน 1925 เขาแต่งงานกับเวร่า สโลนิม (Vera Evseyevna Slonim) และมีลูกชายชื่อ ดมิทรี เกิดมาในปี 1934

1937 ครอบครัวของเขาย้ายไปปารีส หลังการต่อต้านชาวสลาฟ เริ่มดุเดือดในเยอรมัน พฤษภาคม 1940 ย้ายบ้านอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เดินทางมายังสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ในแมนฮัตตัน โดยได้งานแรกในพิพิธภัณธ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติแห่งสหรัฐ

1941 ได้งานสอนหนังสือในวิทยาลัยเวลเลลลี (Wellseley College) เป็นอาจารย์สอนเรื่องวรรณกรรมเปรียบเทียบ ที่นี้ทำให้เขามีรายได้เพียงพอและมีเวลาว่างในการเริ่มตามหาความฝันเล็กๆ อย่างการเป็นเลพิดอฟเทอรี (Lepidoptery เลพิดอฟเทอรี ผู้สนใจศึกษาเฉพาะผีเสื้อ) ที่เวลเลสลี นี้ เนโบกอฟ ยังเป็นผู้ก่อตั้งแผนกวิชารัสเซียขึ้นครั้งรแก

1942 เขาออกจากเวลเลสลีมาทำงานให้มหาวิทยาเลยเคมบริด ซึ่งอยู่ในแมสสาชูเสตต์ เมืองเดียวกัน

เนโบกอฟ สร้างผลงานอมตะ อย่าง ลอลิต้า (Lolita) ระหว่างที่เดินทางไปยังฝั่งตะวันตกของอเมริกา เพื่อสะสมผีเสื้อ เขาเคยคิดที่จะเผาต้นฉบับของลอลิต้าทิ้งระหว่างที่ยังเขียนไม่เสร็จ ซึ่งภรรยาของเขา เวร่า ได้ห้ามไว้ หลังจากลอลิต้า ตีพิมพ์ในปี 1953 และประสบความสำเร็จอย่างสูง เขากล่าวถึงเวร่าว่าเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดที่เคยพบในชีวิตเขา

1958~1960 เนโบกอฟ ออกจากสหรัฐ กลับไปยังยุโรป และ ปี 1961 ได้ไปอาศัยอยู่ในสวิสเซอแลนด์ จนสิ้นชีวิตในปี 1977 , 2 กรกฏาคม

ทฤษฏีผีเสื้อ

หลัง 65 ปีผ่านไป เนโบกอฟ ที่คนทั่วไปรู้จักเขาจากวรรณกรรมคลาสสิค อย่างลอลิต้า และ เปล ไฟ (Pale Fire)  นอกจากนั้นเขายังเคยตีพิมพ์หนังสือรวบรวบผีเสื้อมากมายหลายร้อยชนิดรวมเล่ม เขาได้ตั้งสมมุติฐานเกียวกับวิวัฒนการของผีเสื้อ ซึ่งเขาสนใจผีเสื้อ กลุ่ม Polyommatus Blues (ผีเสื้อสีฟ้า กลุ่มหนี่ง) เขาบอกว่า จริงๆ แล้วผีเสื้อเหล่านี้เข้ามายังสหรัฐโดยอพยพมาจากทวีปเอเชีย แต่ว่าในยุคนั้นไม่ได้มีคนพิสูจน์หรือสนใจว่ามันจริงหรือป่าว เนโบกอฟไม่ได้เกิดมาเพื่ออะไรที่เรียกว่าการปฏิวัติ หรือการลุกฮือของชนชั้น พ่อของเขาเคยถูกจำคุกตอนที่เขาอายุแค่ 8 ขวบ ตอนนั้นเขาเองซื้อผีเสื้อมาให้พ่อในคุกเป็นของฝาก นั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างจริงจังตั้งแต่วัยเด็ก ดร.เฟียซี (Pierce) แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้สนใจพิสูจน์ทฤษฏีของเนโบกอฟ ว่าจริงหรือไม่ตั้งแต่ปี 1999 ตอนที่จะจัดนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงเนโบกอฟ ครบรอบ 100 ปี ซึ่งก็ต้องการตัวอย่างดีเอ็นเอของผีเสื้อจำนวนมากมาศึกษา และตอนแรก เธอก็คิดว่าผีเสื้อกลุ่มนี้น่าจะมาจากอเมซอนซึ่งมีผีเสื้อเพื่อนบ้านอยู่มากมายมากกว่า แต่ว่าดีเอ็นเอบอกว่าผีเสื้อในกลุ่มสีฟ้านั้นมีความใกล้ชิดกับผีเสื้อในเอเชียมากกว่า และเนโบกอฟ ถูกต้อง เนโบกอฟ เคยบอกว่า ผีเสื้อพวกนี้ บินผ่านมายังแผ่นดินสหรัฐผ่านทางช่องแคบเบริ่ง (Bering) ระหว่างรัสเซียและอลาสก้า ประมาณ 10 ล้านปีผ่านมา ซึ่งตอนนั้นสภาพอากาศไม่ได้เป็นเช่นทุกวันนี้

Don`t copy text!