Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Tag: Anarchism

  • Pierre Joseph Proudhon

    ปิแอร์ โจเซฟ ปรัวดอน  อนาร์ไคสต์ (Anarchist) คนแรก  ปรัวดอน เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1809 ในเมืองเบซานโคน (Besancon) ทางตะวันออกของฝรั่งเศส พ่อของเขาเป็นคนปรุเบียร์และช่างทำถังหมัก ชื่อ คลูด์ ฟรานเซียส ปรัวดอน (Claude Francios Proudhon) และแม่ชื่อว่า แคทเธอรีน (Catherine Simonin) พวกเขามีลูกด้วยกันห้าคน แต่ว่าเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็กไปสองคน ปรัวดอนจึงเป็นลูกชายคนโตที่สุด และมีน้องชายอีกสองคน วัยเด็กของเขาไม่ได้เข้าเรียนหนังสือในโรงเรียน แต่ว่าได้รับการสอนจากแม่ เขาเริ่มอ่านหนังสือได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ 1820 เข้าเรียนหนังสือที่วิทยาลัยในเบซานโคน  แต่ว่าการเรียนค่อนข้างลำบากเพราะว่าครอบครัวมีฐานะที่ยากจน แม้ว่าจะได้รับทุนการศึกษาปีละ 120 ฟรังค์ 1827 เริ่มทำงานในสำนักพิมพ์ The house of Bellevaux ก่อนที่ปีต่อมาเขาจะบ้ายไปยังสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในเบซานโคน ซึ่งครอบครัวของเพื่อนของเขา ที่ชื่อ Antoine Gauthier เป็นเจ้าของ โดยผลงานเขียนของปรัวดอน ในตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทฤษฏีเกี่ยวกับศาสนาคริสต์และโบสถ์ (Ecclesiastical) ซึ่งพยายามอธิบายเรื่องที่มาของโบสถ์และบทบาทของโบสถ์ต่อสังคม…

  • Mikhail Bakunin

    มิคาอิล บากุนิน (Михаил Александрович Бакунин ,Mikhail Aleksandrovich Bakunin)นักปราชญ์ผู้เป็นบิดา ผู้ปูแนวคิดอนาธิปไตย (Anarchism) ประวัติศาสตร์บอกว่าเขาเป็นคู่แข่งของคาร์ล มาร์กบากุนิน เกิดเมื่อ 30 พฤษภาคม 1814 แต่ว่าวันเกิดที่แน่นอนยังเป็นที่ถกเกียงกัน เขาเกิดในเมืองปรีมุคิโน่ (Premukhino) ในจังหวัดทีเวอร์ กูเบอร์เนีย (Tver Gubernia) เป็นลูกชายคนโตในครอบครัว บิดาของเขาเป็นอดีตนักการโทษ และเป็นเจ้าของที่ดิน พ่อของเขาอาศัยอยู่ในปารีสระหว่างที่เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส จบปริญญษเอกทางด้านปรัชญาในพาดัว (Padua) ชื่นชอบในผลงายของรุสโซ่ มารดาของเขามาจากตระกุล มาราฟยอฟ (Maravyov) ซึ่งญาติของนางหลายคนเกี่ยวข้องกับการลุกฮือในเดือนธันวาคม 1825 ของกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญบากุนิน เติบโตในครอบครัวที่สวยงาม มีน้องสาวอีกสี่คน และพ่อที่เข้มงวดในวิถึชีวิตของลูกๆ  เข้าเรียนที่โรงเรียนการยิงปืนใหญ่ในเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก หลังจากเรียนจบก็เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าทหารรักษาความปลอดภัย แต่ว่านั้นทำให้พ่อของเขาโกรธและต้องการให้เขาย้ายไปทำงานในตำแหน่งอื่นในกองทัพ ตัวบากุนินเองไม่ค่อยชอบชีวิตของทหารนั้น เขาค่อนข้างกดดัน จนทำให้ไม่ชอบสังคม และหันไปหางานทางด้านหนังสือแทน หัวหน้าของเขาเห็นใจเขาแต่ว่าก็ไม่มีทางเลือกระหว่างภาระกิจของเขากับสภาพจิตใจ เขาบอกให้บากุนินเลือกระหว่างการเป็นทหารหรือว่าจะลาออกไป และบากุนินก็เลือกที่จะออกจากทหารในปี 1835ปี 1836 บากุนิน เดินทางไปมอสโคว์เพื่อเรียนทางด้านปรัญชา ตอนนั้นเองที่เขาถึงรู้สึกว่าชีวิตของเขามีความหมายมากขึ้น เขาชอบที่จะอยู่ตามกลางวงสนธนา ดังประเด็นต่างๆ ขึ้นมาสนทนา…

Don`t copy text!