Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

David Sarnoff

เดวิด ซาร์นอฟฟ์ (Давид Сарнов) 

History of Television

ผู้บุกเบิกธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ในสหรัฐฯ​

ซาร์นอฟฟ์ เกิดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1891 (21 ก.พ. O.S.)  ในอุซยานี (Uzlyany) ใกล้กับกรุงมินส์ก, เบลารุส (Minsk, Beralus, Russia Empire) ซึ่งขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย ครอบครัวของเขาเป็นยิว พ่อชื่อว่าอับราฮัม (Abraham Sarnoff) และแม่ชื่อเลียห์ (Leah Sarnoff)

1896 พ่อของเขาเดินทางไปอยู่ในนิวยอร์ก 

1900 แม่พาสมาชิกครอบครัวที่เหลือรวมทั้งซาร์นอฟฟ์อพยพตามมาอยู่กับพ่อของเขาในสหรัฐฯ โดยอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ค และซาร์นอฟฟ์เข้าเรียนในโรงเรียน Educational Alliance  โดยที่ระหว่างเรียนได้ทำงานเป็นพนักงงานส่งหนังสือพิมพ์, และเป็นนักร้องในโบสถ์ยิวเพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวไปด้วย 

1906 พ่อของเขาล้มป่วยด้วยวัณโรคจนไม่สามารถทำงานได้ ซาร์นอฟฟ์จึงลาออกจากโรงเรียนเพื่อที่จะทำงานเป็นพนักงานส่งโทรเลขให้กับบริษัทโทรเลข Commercial Cable Telegraph Company ก่อนที่ต่อมาเขาจะได้ใช้เงินเก็บซื้อเครื่องโทรเลข และได้ฝึกจนกลายเป็นเชี่ยวชาญการส่งรหัสมอส (Morse code) ต่อมาไม่กี่เดือนเขาได้ย้ายไปทำงานที่บริษัทมาร์โคนิ (Marconi Wireless Telegraph Company of America) 

1908 ได้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ประจำสถานีส่งสัญญาณของบริษัทที่ตั้งอยู่บนเกาะแนนทักเก็ต (Nantucket Island) 

1911 พ่อของเขาเสียชีวิต

1912 เมษายน, สถานีวิทยุที่ซาร์นอฟฟ์ทำงานอยู่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเรือไททานิก (Titanic) ซึ่งซาร์นอฟฟ์มักไปกล่าวอ้างอย่างเกินจริงว่าเขาทำงานอยู่เพียงลำพังภายในสถานีตลอดสามวันที่รับสัญญาณของความช่วยเหลือจากเรือไททานิก

1916 เขียนหนังสือ Radio Music Box ซึ่งเขาเสนอไอเดียการถ่ายทอดกระจายเสียงวิทยุเพื่อให้คนทั่วไปฟังตามครัวเรือน

1917 4 กรกฏาคม, แต่งงานกับไลเซ็ตต์ (Lizette Hermant

เมื่อสหรัฐฯ เข้าร่วมในสงครามโลก ครั้งที่ 1 ซาร์นอฟฟ์ได้พยายามจะสมัครเข้าไปทหารในกองทัพเรือ แต่ว่าต่อมาต้องเปลี่ยนใจเพราะว่างานของเขาในบริษัทมาร์โคนีมีความสำคัญมากในช่วงนี้เพราะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์วิทยุให้กับกองทัพเรือ 

ต่อมาบริษัทมาร์โคนีซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติ ถูกซื้อกิจการเพื่อให้เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันเพื่อความมั่นคงของชาติในภาวะสงคราม ซึ่งบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นมาคือ Radio Corporation of America (RCA) 

1919 ซาร์นอฟฟ์ได้รับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการค้าของบริษัท RCA

1920 ซาร์นอฟฟ์ได้รับเงินทุนก้อนหนึ่งในการพัฒนาเครื่องรับวิทยุตามที่เขาเคยเสนอเอาไว้

1921 2 กรกฏาคม, ซาร์นอฟฟ์สาธิตการกิจการวิทยุของเขาโดยการถ่ายทอดเเสียงของการชกมวยระหว่างแจ็ค เดมป์ซีย์ (Jack Dempsey) และจอร์เจส คาร์เพนเทียร์ (Georges Carpentier)  

ไม่นานกิจการวิทยุก็เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้ RCA ได้อย่างเป็นกอบเป็น

1925 RCA ซื้อสถานีถ่ายทอดสัญญาณวิทยุในนิวยอร์ค 

1926 RCA ได้ก่อตั้งบริษัท National Broadcasting Company (NBC) ซึ่งเป็นกิจการวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของสหรัฐฯ​

1929 ได้พบกับวลาดิมีร์ ซวอรีกิ้น (Vladimir Kosma Zworykin) วิศวกรของบริษัท Westinghouse เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการสร้างโทรทัศน์สำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งซาร์นอฟฟ์ได้โน้มน้าวจนบริษัท Westinghouse ยอมลงทุนในการทำวิจัยเพื่อพัฒนาโทรทัศน์ขึ้นมา

1930 RCA ได้ซื้อแผนกวิจัยโทรทัศน์จาก Westinghouse พร้อมกับได้ตัวซวอรีกิ้น มาทำงานด้วย 

ซาร์นอฟฟ์ได้รับตำแหน่งประธานบริษัท  RCA

1939 เปิดตัวธุรกิจทีวีขาวดำของบริษัทครั้งแรกในงานแสดงสินค้าโลก (World’s Fair) ในนิวยอร์ค โดยมีการถ่ายทอดภาพของประธานาธิบดีรูสเวลส์ (Franklin Delano Roosevelt) 

1941 ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซาร์นอฟฟ์ได้เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้กับนายพลไอเซ่นฮาวน์ (Dwight D. Eisenhower) จนซาร์นอฟฟ์ได้รับยศเป็นนายพลจัตวา (Brigadier general)

1950 ธุรกิจโทรทัศน์ของ RCA เริ่มมีปัญหาเมื่อโทรทัศน์สีของบริษัทโคลัมเบีย (Columbia Broadcasting System) เริ่มเข้ามา และระบบของโคลัมเบียได้รับการรับรองจาก FCC (Federal Communications Commiisssion) ให้เป็นมาตรฐาน

1953 ระบบโทรทัศน์สีของ RCA ผ่านการรับรองจาก FCC 

1970 ซาร์นอฟฟ์เกษียรจากบริษัท RCA

1971 12 ธันวาคม, เสียชีวิตในนิวยอร์ค 

Don`t copy text!