Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Operation Ivy Bells

Operation Ivy Bells เป็นความริเริ่มโดยอดีตนายทหารเรือ กัปตัน เจมส์ แบรดลีย์ (James Bradley) ซึ่งเคยประจำการณ์ในเรือดำน้ำช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 และทำงานด้านข่าวกรองใต้ทะเล
ในปี 1971 แบรดลีย์ เกิดแนวคิดที่จะดักฟังสายเคเบิ้ลใต้ทะเลของโซเวียต เขา, กองทัพเรือ และ NSA (National Security Agency) ตัดสินใจเลือกพื้นที่บริเวณทะเลโอค๊อตส์ก เพราะว่าเป็นฐานทัพสำคัญของโซเวียตในมหาสมุทรแปซิฟิก ฐานทัพเรือเปโตรปาฟลอฟส์ก ซึ่งอยู่บนเกาะคัมชัตก้า (Kamchatka) จึงน่าจะมีสายเคเบิ้ลเชื่อกับศูนย์บัญชาการที่วลาดิวอสต๊อก (Vladivostok) บริเวณดังกล่าวยังถูกจำกัดไม่ให้พลเรือนเข้าไปและมีการลาดตระเวณอย่างเข้มงวด และในทะเลยังมีเครื่องดักฟังสัญญาณเสียงใต้น้ำด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่นี้จึงน่าจะมีความสำคัญมาก
แบรดลีย์ได้เลือกเรือดำน้ำนิวเคลียร์ฮาลิบัต (Halibut nuclear submarine, SSGN-587) นำในปฏิบัติการณ์นี้ ซึ่งยังประกอบด้วยเรือดำน้ำอื่นๆ อีกหลายลำ  จุดเด่นของเรือดำน้ำฮาลิบัตคือระบบขับเคลื่อนมีความเงียบเป็นพิเศษ และยังมีการติดตั้งเรือดำน้ำกู้ภัยขนาดเล็ก DSRV’s (deep-submergence rescue vehicles) เพื่ออำพรางว่าฮาลิบัตเป็นเพียงเรือกู้ภัยใต้น้ำขนาดเล็ก และมีการปล่อยข่าวลวงว่าสหรัฐฯ ส่งเรือดำน้ำเข้าไปเพื่อค้นหาจรวดมิสไซด์ SS-N-12 Sandbox ของโซเวียตที่หล่นลงในทะเล
ขณะที่นักประดาน้ำเอง ก็ต้องมีระบบช่วยหายใจแบบใหม่ที่จะทำให้สามารถประดาน้ำลึกราว 400 ฟุตได้ อาทิ ถังอากาศ มีการเปลี่ยนส่วนผสมของอากาศใหม่ เป็น ฮีเลียมและอ๊อกซิเจน แทนไนโตรเจนและอ๊อกซิเจน
ฤดูร้อนปี 1972 ไม่นานก่อนที่จะมีการลงนานในข้อตกลงควบคุมขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ SALT 1 (Strategic Arms Limitations Treaty) ระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต เรือดำน้ำนิวเคลียร์ฮาลิบัต ใต้การบังคับบัญชากของกัปตันจอห์น แม็คนิช (Captain John McNish) ของสหรัฐฯ ล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำของโซเวียต บริเวณทะเลโอค็อตส์ก (Sea of Okhotsk)  และนักประดาน้ำได้ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Bat Cave ในการดำน้ำลึก เพื่อทำการดักฟังสายเคเบิลสื่อสารใต้ทะเลของโซเวียต
สหรัฐฯ​ ค้นพบสายเคเบิ้ลสื่อสารทางทหารของโซเวียตของโซเวียต ที่ระยะ 120 ไมล์จากชายฝั่ง สายเคเบิ้ลดังกล่าว เป็นสายเคเบิ้ลที่เชื่อมระหว่างฐานทัพเรือดำน้ำเปโตรบาฟลอฟส์ก (Petropavlovks’s submarine base) กับมอสโคว์ 
นักประดาน้ำได้น้ำอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ดักฟัง ติดเข้ากับสายเคเบิ้ล ซึ่งเคเบิ้ลไม่ได้ถูกตัดออกจาากกัน แต่รายละเอียดและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ดังกล่าวยังถูกเก็บเป็นความลับ แต่ว่าข้อมูลที่ผ่านสายเคเบิ้ลจะถูกบันทึกเขาไว้ในอุปกรณ์นี้ และเมื่อถึงกำหนด เรือดำน้ำของสหรัฐฯ​ ก็จะมาเก็บข้อมูลที่ดักฟังเอาไว้กลับไป 
Operation Ivy Bells ดำเนินไปเกือบ 10 ปี โดยมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ดังฟังรุ่นใหม่เมื่อครบระยะเวลาเป็นประจำ
เดวิด เลอจูน (David LeJeune) เป็นหนึ่งในนักประดาน้ำที่ร่วมในปฏิบัติการณ์ดังกล่าว เขาไม่สามารถเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการณ์ได้เนื่องจากข้อมูลหลายอย่างยังเป็นความลับ  แต่เขาบอกว่าปฏิบัติการนี้ประสบความสำเร็จและนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงในการเจรจา SALT 2 ในปี 1979 และผลพลอยได้อื่นๆ อย่างการที่เรือดำน้ำของสหรัฐฯ​ ค้นพบเศษชิ้นส่วนมิสไซด์ SS-N-12 AShM 
1980 โรนัล เพลตัน (Ronald Pelton) อดีตเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ NSA บอกข้อมูลเกี่ยวกับ Operation Ive Bells ให้กับสถานทูตโซเวียตในวอชิงตัน ดี.ซี. โดยแลกกับเงินรางวัล 35,000 เหรียญ
1981 เมื่อเรือดำน้ำ USS Parche (SSN-683) เดินทางไปเพื่อเก็บข้อมูลดักฟังที่สายเคเบิ้ล นักประดาน้ำก็พบว่าอุปกรณ์ดักฟังได้หายไปแล้ว เป็นสัญญาณว่าโซเวียตรู้ว่ามีปฏิบัติการลับนี้ และ Operation Ivy Bells สิ้นสุดลงไป (แต่มีความเป็นไปได้ว่ามีปฏิบัติการณ์ลักษณะเดียวกันกับสายเคเบิ้ลแห่งอื่นๆ ใต้มหาสมุทร) 

โรนัล เพลตัน ซึ่งขายข้อมูลลับให้โซเวียต ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 29 ปี ก่อนจะพ้นโทษในปี 2015 
Don`t copy text!