Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Mieszko I of Poland

เมียสโก้ ที่ 1 (Mieszko I of Poland)
ผู้ก่อตั้งประเทศโปแลนด์
พงศาวดารกัลลา อโนนิม (Chronicles Galla Anonim เขียนขึ้นเป็นภาษาลาตินราวปี 1115) ได้ให้ข้อมูลว่ากษัตริย์เมียสโก้ ประสูตร ราวปี 920931 ทรงเป็นพระโอรสของเจ้าชายซีโมนิสล์  (Prince Siemonysl) กับพระมารดาที่ไม่ปรากฏพระนาม เจ้าชายซีโมนิสล์นั้นเป็นผู้ปกครองดินแดนเล็กๆ บริเวณวิลโกโปลสก้า (Wielkopolska)  ปัจจุบัน ซึ่งราชวงศ์เพียสต์ (Piast dynasty) ของพระองค์อาจจะปกครองบริเวณนี้มานานกว่าสองร้อยปีแล้ว
เมียสโก้ ขึ้นครองราชย์ หลังจากพระบิดาของพระองค์สวรรคตราวปี 950-960
960 พระองค์ได้เป็นผู้ปกครองเมืองเล็กๆ Gniezno
963 ทำสงครามกับพวกลูติซี (Lutici) หรือเวเลติ (Veleti) ซึ่งเป็นชนเผ่าเชื้อสายสลาฟที่กระจายตัวในพื้นที่ดังกล่าว โดยเมียสโก้ทรงต้องการที่จะผนวกดินแดนโพเมราเนียตะวันตก (Western Pomerania) แต่ว่ากองทัพของเมียสโก้ แพ้ให้กับกองทัพของแม่ทัพเกโร่ (Margrave Gero) แห่งโฮลี่โรมัน (Holyo Roman) ที่ขยายดินแดนมาทางตะวันออกและเปลี่ยนให้ดินแดนเหล่านั้นมานับถือศาสนาคริสต์
ความพ่ายแพ้ทำให้เมียสโก้หันไปเป็นพันธมิตรกับจักรพรรดิอ๊อตโต้ ที่ 1 แห่งโฮรี่โรมัน (Emperor Otto I of Holy Roman)
965 ทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงเชค พระนามว่าดุบราฟก้า (Princess Dubravka)  ซึ่งสองพระองค์มีพระโอรสและพระธิดา คือ เจ้าชายโบเลสลาฟ ที่ 1 (Boleslaw I the Brave) และเจ้าหญิงสวีโตสลาว่า (Świętosława)
966 (Baptism of Poland) เพราะว่าได้รับอิทธิพลจากโฮรี่โรมันและสาธารณรัฐเชคฯ  กษัตริย์เมียสโก้ จึงได้ทรงรับเอาศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาของพระองค์และเท่ากับเป็นศาสนาของโปแลนด์ด้วย
967 ด้วยความช่วยเหลือจากโฮลี่โรมัน เมียสโก้ จึงสามารถผนวกโพเมราเนียตะวันตกเอาไว้ โดยสามารถเอาชนะโพเมราเนียตะวันตกได้เด็ดขาดโดยสามารถรบชนะ วิชแมนน์ เดอะ ยังเกอร์ (Wichmann the Younger)  และสลาฟเผ่าโวลิน (Wolin) ได้
968 ก่อตั้งเมืองบิชอฟแห่งแรก (Polish bishopric) ขึ้นที่เมืองโปซนาน (Poznan) โดยบิชอฟของเมืองนี้จะส่งรายงานโดยตรงต่อโฮลี่โรมัน
970 มีการสร้างปราสาทและป้อมปราการสำคัญขึ้นที่ซานต๊อก (Santok) ซึ่งปราสาทสร้างจากไม้และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 240  เมตร แต่ว่าปราสาทถูกทำลายไปในปี 1420
972 โปแลนด์ถูกโจมตีจากกองทัพของแม่ทัพโฮโด (Margrave Odo) จากแซ็กซอน (Saxon) แต่ว่าสามารถป้องกันดินแดนเอาไว้ได้สำเร็จ ในการรบที่เซดีเนีย (Battle of Cedynia)
973 หลังจากมีสงครามกับแม่ทัพโฮโดแล้ว มีการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยจะให้จักรพรรดิอ๊อตโต เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งการเจรจาจะจัดขึ้นที่กูดลินบูร์ก (Quedlingburg)  แต่ไม่แน่ชัดว่าจักรพรรดิอ๊อตโต้ได้มีพระวินิจฉัยออกมาหรือไม่ เพราะว่าพระองค์สวรรคตในปีนี้   และเมียสโก้ก็ไม่ได้เสด็จมาที่กูดลิบูร์ก แต่ได้ส่งเจ้าชายโบเสสลาฟ ให้มาถูกจับตัวเป็นตัวประกันไว้
979 อภิเษก ครั้งที่ 2 กับโอด้า ไดทริชอฟน่า (Oda Dietrichovna) บุตรสาวของเคานต์ไดทริช (Count Dietrich von Haldensleben, Margrave of Northern Mark) การอภิเษกครั้งนี้ ให้กำเนิดพระโอรส, พระธิดาอีกสามองค์ คือ เมียสโก้ (Mieszko), ซัฟยาโตโพลก์ (Svyatopolk) และแลมเบิร์ต (Lambert)
986 เมียสโก้ได้มีโอกาสพบกับจักรพรรดิอ๊อตโต้ ที่ 2 (Otto II) ที่กูดรินบูร์ก ซึ่งเมียสโก้ได้ตามเสด็จจักรพรรดิฮ๊อตโต้ ที่ 2 ไปในสงครามต่อเชคด้วย 
990 โปแลนด์ได้ผนวกซิเลสเซีย (Silesia) และเลซเซอร์โปแลดน์ (Lesser Poland) (ไม่รวมคราคอฟ (Krakow)) เอาไว้

992 25 พฤษภาคม, สวรรคต ในโบซนัน (Poznan) ก่อนจะสวรรคตไม่นานเมียสโก้ พระราชินี พร้อมด้วยพระโอรสพระธิดา ได้ร่วมกันได้ออกพระราชสาสน์ Dagome iudex ที่มีพระราชประสงค์ประกาศให้โปแลนด์เป็นดินแดนในอารักขาของพระสันตะปาปา
Don`t copy text!