Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Pyotr Voykov

ปีเตอร์ วอยกอฟ (Пётр Лазаревич Войков)

วอยกอฟ เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1888 ในเคิร์ช (Kerch, Tauride province) พ่อของเขาทำงานในโรงงานเหล็กชื่อลาซารัส (Lazarus Voikov) แต่บางที่ให้ข้อมูลว่าลาซารัสเป็นครู ส่วนแม่ชื่ออเล็กซานดร้า (Alexandra Ivanova)
ลาซารัสมีบรรพบุรุษเคยเป็นทาส ส่วนตัวเอาเองเคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนสอนการทำเหมืองแร่ (St.Petersburg Mining Institute) เพราะว่าเข้าร่วมกับการประท้วงของนักศึกษา หลังจากออกจากโรงเรียนเขาจึงได้มาทำงานอยู่ในโรงงานเหล็ก (Kerch Metallurgical Plant)  หลังแต่งงานกับอเล็กซานดร้า พวกเขามีลูกด้วยกันสี่คน
วอยกอฟเข้าเรียนที่เคิร์ชจิมเนเซียม (Kerch gymnasium) แต่ว่าถูกไล่ออกตอนอยู่เกรด 6
1903 เขาเริ่มทำงานให้กับพรรค RSDLP โดยทำงานในฝ่ายบู๋ ประกอบระเบิด วางระเบิด หรือคอยสังหารเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล
1906 ลอบวางระเบิดเพื่อสังหาร นายพลดัมบัดเซ (General Dumbadze) ผู้ว่าฯ ของยัลต้า แต่ว่าล้มเหลว
1907 เขาหนีไปสวิสเซอร์แลนด์ และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเจนีวา (University of Geneva) ทางด้านคณิตศาสตร์และเคมี ในเจนีวา เขาได้เจอกับเลนิน (Lenin) และสมาชิกพรรคบอลเชวิคคนอื่นๆ
1914 แต่งงานกับอเดลไลด์ (Adelaide Abramovna Belenkin)
1917 หลับการปฏิวัติกุมภาพันธ์, เขาเดินทางกลับมากลับขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ (sealed train) พร้อมกับเลนิน  เขาได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในกระทรวงแรงงานในรัฐบาลเฉพาะกาล
สิงหาคม, เขาถูกส่งมายังเมืองเยคาเตอรินเบิร์ก (Ekaterinburg) , วอยกอฟได้เข้าร่วมกับกรรมาธิการทางทหารเพื่อการปฏิวัติ (Ekaterinburg Military Revolutionary Committee) ของพรรคบอลเชวิคประจำเยคาเตอรินเบิร์กนี่ เพื่อเตรียมการปฏิวัติในเดือนตุลาคม
ตุลาคม, หลังการปฏิวัติเขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภาดูม่าของเยคาเตอรินเบิร์ก
1918 ช่วงต้นปีเขามาทำงานกับสภาเขตยูราน (Ural Regional Council) โดยมีหน้าที่รับผิดชอบการดูแลการกระจายสินค้าและอาหาร
วอยกอฟเป็นผู้วางแผนให้สังหารพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 และสมาชิกในครอบครัวอีก 5 คน โดยเขาเป็นคณะทำงานที่เสนอให้ย้ายที่คุมขังซาร์จากเมืองโตโบลส์ก (Tobolsk) มายังอิบาเตียฟเฮาท์ (Ipatiev house) ในเยคาเตอรินเบิร์ก

คืนวันที่ 16-17 กรกฏาคม, ซาร์นิโคลัส ที่ 2 และพระธิดาอีก 5 พระองค์ รวมถึง, หมอบอตกิ้น (Dr.Botkin),อิวาน คาริโตนอฟ พ่อครัว (Ivan Kharitonov),  อเล็กซี ทรับ (Alexei Trupp) คนรักใช้และ แอนนา เดมิโดว่า (Anna Demidova) คนรับใช้ ถูกสังหารภายในสวนบริเวณอิบาเตียฟเฮาท์
วันถัดมามีการทำลายศพ โดยที่วอยกอฟเป็นคนจัดหาน้ำมันและกรดซัลฟุริกที่ใช้ทำลายศพทั้งหมด
1920 วอยกอฟกลับมายังมอสโคว์ เขาถูกตั้งให้เป็นบอร์ดของกรรมาธิการด้านการค้าต่างประเทศ  (Commissar of Foreign Trade)  ซึ่งเป็นผู้จัดแจงเอาทรัพย์สินของราชวงค์จากพระราชวังเครมลิน ออกไปขายในต่างประเทศในราคาถูก
1924 ทางการโซเวียตส่งวอยกอฟไปเป็นทูตที่โปแลนด์  ซึ่งในโปแลนด์วอยกอฟได้เข้าไปเพื่อดำเนินแผนการณ์ที่จะสังหารจอมพลโจเซฟ ปิลสุดสกี้ (Marshal Jozef Pilsudski) ของโปแลนด์ แต่ว่าแผนการณ์ถูกสังระงับไปก่อน
1927 7 มิถุนายน, วอยกอฟ ถูกสังหารในกรุงวอร์ซอของโปแลนด์ โดยบอริส โกเวอร์ด้า (Boris Koverda) เด็กหนุ่มชาวรัสเซียวัย 18 ปี
ศพของวอยกอฟถูกส่งกลับมายังโซเวียตและถูกนำไปประกอบพิธีที่จตุรัสแดง

Don`t copy text!