Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Yevgeny Botkin

เยฟกินี บ๊อตกิ้น (Евгений Боткин)
แพทย์ซึ่งถูกยิงตายพร้อมซาร์นิโคลัส ที่ 2 
ดร.บ๊อตกิ้น เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 1865 ในซาร์สโกเย่ เซโล่ (Tsarskoye Selo) โดยเป็นลูกชายของเซอร์เกย์ บ๊อตกิ้น (Sergey Botkin) แพทย์ในราชสำนักในสมัยของซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 2 
เข้าเรียนที่สถาบันการแพทย์ (Academy of Medicine)
1889 เมื่อเรียนจบ ได้รับข้อเสนอจาก Czarevich George Aleksandrovich ให้ไปเป็นแพทย์ประจำตัวแต่ว่าบ๊อตกิ้นปฏิเสธ เพราะต้องการจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน-ไฮเดลเบิร์ก (Berlin and Heidelberg) 
หลังจากกลับมารัสเซียได้เข้าทำงานสอนหนังสือที่สถาบันการแพทย์ พร้อมกับได้เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จ (St. George’s Hospital) 
1904 ช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russian-Japanese war, 1904-1905) เขาเป้นอาสาสมัครไปทำงานในพื้นที่รบในขบวนรถไฟของโรงพยาบาลเซนต์จอร์จซึ่งใช้เป็นที่รักษาพยาบาล 
1907 ได้รับหน้าที่แพทย์ประจำพระองค์ของซาริน่าอเล็กซานดร้า (Tsarina Alexandra) หลังจากแพทย์คนก่อนเสียชีวิต บ๊อตกิ้นนอกจากจะทำหน้าที่แพทย์ที่ตรวจอาการของอเล็กซานดร้าเป็นประจำวันละสองครั้ง ยังทำหน้าที่คอยเป็นล่ามให้อเล็กซานดร้าด้วยเพราะอเล็กซานดร้านั้นเกิดและพูดภาษาเยอรมัน ผู้ช่วยของบ๊อตกิ้น ดร.วลาดิมีร์ (Vladimir Derevenko) ก็ทำหน้าที่คอยดูแลเจ้าชายอเล็กซีย์ (Tsarevich Aleksey) 
1910 หย่ากับภรรยา, ภรรยาของบ๊อตกิ้นชื่อโอลก้า (Olga) พวกเขามีลูกด้วยกันสี่คน คือ ดมิทรี, ยูริ, เกลบ, และทาเทียน่า แต่ภายหลังโอลก้าไปมีความสัมพันธ์กับติวเตอร์ชาวเยอรมันของลูกๆ ชื่อเฟรเดอริช ลิชินเจอร์ (Friederich Lichinger) จึงของหย่ากับบ๊อตกิ้น ภายหลังนางไปอยู่และเสียชีวิตในเยอรมัน
1914 ลูกชายสองคนบ๊อตกิ้นสองคน ดิมิทรีและยูริ เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ความเสียใจทำให้บ๊อตกิ้นหันเข้าสู่ศาสนามากขึ้น 
ในช่วงสงครามบ๊อตกิ้นได้รับคำสั่งจากซาริน่าให้เดินทางไปยังยาลต้า (Yalta) เพื่อตั้งโรงพยาบาล
1917 หลังการปฏิวัติกุมภาพันธ์, บ๊อตกิ้นยังคงทำหน้าที่ดูแลซาริน่าและซาร์นิโคลัสซึ่งถูกรัฐบาลเฉพาะกาลกักบริเวณอยู่ภายในพระราชวังอเล็กซานเดอร์ (Aleksander Palace) 
สิงหาคม, พระเจ้าซาร์ถูกเนรเทศไปยังเมืองโตโบลส์ก (Tobolsk) ตะวันตกเฉียงเหนือของไซบีเรีย โดยที่บ๊อตกิ้นยังติดตามไปด้วย โดยที่เกลบและทาเทียน่า ลูกของเขาได้รับอนุญาตให้เดินทางไปด้วย  โดยที่บ๊อตกิ้นและลูกได้พักอยู่ในบ้านชื่อคอร์นิลอฟเฮาท์ (Kornilov House) ซึ่งอยู่ตรงข้ามถนนกับแมนชั่นของรัฐบาลที่พระเจ้าซาร์นิโคลัสถูกจับตัวไว้ 
1918 26 เมษายน, พระเจ้าซาร์และครอบครัวถูกนำตัวขึ้นรถไฟย้ายไปยังที่อื่นโดยตอนแรกพระองค์คิดว่ากำลังจะถูกพาไปอังกฤษโดยเดินทางผ่านมอสโคว์  บ๊อตกิ้นนั้นติดตามพระเจ้าซาร์มาด้วย และลูกของบ๊อตกิ้นไม่ได้เดินทางมา
3 พฤษภาคม, ซาร์นิโคลัส ถูกนำไปไว้ที่อิบาเตียฟเฮาส์ (Ipatiev House) ในเยคาเตอรินเบิร์ก (Ekaterinburg) โดยที่บ๊อตกิ้นก็อยู่ในบ้านนี้ด้วย พวกเขาถูกขังไว้นาน 78 วัน โดยระหว่างนี้บ๊อตกิ้นก็มีอาการป่วยด้วยโรคไตและต้องใช้มอร์ฟีนเพื่อรักษาความเจ็บปวด
17 กรกฏาคม, ตอนเช้า บ๊อตกิ้นถูกปลุกโดยนายทหารชื่อยูรอฟสกี (Yurovsky) ทหารคนนั้นแจ้งบ๊อตกิ้นว่ามีทหารของกองทัพขาวกำลังเข้ามาในบริเวณนี้ แต่ชั่วโมงถัดมาบ๊อตกิ้นและซาร์นิโคลัสและครอบครัวก็ถูกยิงจนเสียชีวิต 
Don`t copy text!