Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Henry the Fowler

Henry the Fowler

กษัตริย์คนแรกของเยอรมัน 

(Ottonain Dynasty~Saxon Dynasty)
กษัตริย์เฮนรี่ พระราชสมภพในหมู่บ้านเมมเลเบน ในแซ็คโซนี-อันฮอลต์ (Memleben, Saxony-Anhalt)   ราวปี 876  ทรงเป็นลูกคนที่สาม ของอ๊อตโต้ ที่ 1ดุ๊กแห่งแซ๊คโซนี (Otto the Illustrious, Duke of Saxony) 
มารดาชื่อ เฮดวิก้า (Hedwiga
906  แต่งงานกับฮาธีบูร์ก (Hatheburg) ลูกสาวของเคาน์เออร์วิน แห่งแซ็กซอน  (Erwion , count of Saxon and Merseburg) ฮาธีบูร์กในขณะนั้นเป็นม่ายผ่านการแต่งงานมาแล้ว ว่ากันว่านางเป็นคนสวยและนอกจากนั้นยังมีฐานะร่ำรวยมาก   ปีถัดมางคู่มีโอรสคนหนึึ่ง คือเจ้าชาย แธงมาร์ (Thankmar)
909 หย่ากับฮาธีบูร์ก 
910 อภิเษกอีกครั้งหนึ่งกับมิทิลด้า (Matilda of Ringelheim)
912 หลังจากอ๊อตโต้ ที่ 1 เสียชีวิต , เฮนรี่ ได้รับตำแหน่งดุ๊กแห่งแซ้คโซนีสืบต่อมา แม้ว่าเฮนรี่จะเป็นโอรสองค์เล็กสุดในพี่น้องสามคนแต่ว่าพี่ของพระองค์เสียชีวิตไปหมดก่อนหน้าที่อ๊อตโต้ จะเสียชีวิต 
เมื่อตอนที่เฮนรี่ได้รับตำแหน่ดุ๊กแห่งแซ็คโซนี ก็มีปัญหากับกษัตริย์คอนราด ที่ 1  แห่ง อาณาจักรฟรานเซียตะวันออก (Conrat I , King of East Francia , Duke of Franconia)  ที่ต้องการลดอำนาจของดุ๊กลง และเรียกร้องดินแดนธูรินเกีย (Thurigia) คืนแต่ว่าเฮนรี่ปฏิเสธ
 อย่างไรก็ตามอาร์บิชอฟแห่งเมนซ์ ฮัตโต้ ที่ 1 (Hatto I, Archbishop of Mainz) ซึ่งสนับสนุนคอนราด และมีอิทธิพลในแซ้คโซนี ได้พยายามลอบสังหารเฮนรี่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ส่วนกษัตริย์คอนราด นั้นไม่สามารถทำสงครามกับเฮนรี่ได้เพราะว่าตอนนั้นกำลังมีสงครามอยู่กับ (Erhangera , Duke of Swabia)
915 The Battle of Eresburge ดุ๊กอีเบอร์ฮาร์ด แห่งฟรานเซีย (Eberhard , Duke of Franconia) น้องชายของกษัตริย์คอนราด นำทหารเข้าโจมตีเฮนรี่ แต่ว่าเป็นฝ่ายแพ้  หลังจากนั้นกษัตริย์คอนราด และเฮนรี่จึงได้ทำข้อตกลงกัน โดยเฮนรี่ยอมรับคอนราดในฐานะกษัตริย์ แต่ว่าเฮนรี่ยังมีอำนาจเต็มที่ในดินแดนของตัวเอง 
918 23 ธันวาคม, กษัติรย์คอนราด ที่ 1สวรรคตโดยที่ไร้รัชทายาท ได้ตั้งให้เฮนรี่เป็นกษัตริย์ต่อจากพระองค์ โดยที่ดุ๊กอีเบอร์ฮาร์ด ก็ให้การยอมรับ ซึ่งดินแดนที่ถือว่าอยู่ใต้การปกครองรัชสมัยของกษัตริย์คือ แซ็คโซนี (ของเฮนรี่) , บาวาเรีย, ฟรานโคเนีย, และสวาเบีย (Swabia) แต่ว่าในปลายสมัยของคอนรอด ดินแดนสวาเบียและบาวาเรียมีความเข้มแข็งและถือว่าตนเองเป็นรัฐอิสระ
   หลังคอนราดสวรรคต ดุ๊กอาร์นูลฟ์ ( Arnulf , Duke of Bavaria) ประกาศตนเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ในขณะที่ดุ๊กเบอร์ชารด ที่ 2 แห่งสวาเบีย (Duke Burchard II of Swabia) รอดูท่าทีของเฮนรี่ก่อน
919 เฮนรี่เข้าพิธีราชาพิเษกเป็นกบัตริย์แห่งพรานเซียเซียตะวันออก (เยอรมัน) ที่อาคารสภาในเมืองฟริตซ์เลอร์ (Reichstag, Fritzlar) แต่ว่าพระองค์ปฏิเสธที่จะให้อาร์คบิชอฟเฮริเจอร์ (Archbishop Heriger of Mainz) เป็นผู้สวมมงกุฏให้  
920 กษัตริย์ ชาร์ล แห่งฟรานเซียตะวันตก (Charles the Simple, King of West Francia)  เพราะต้องการจับตัวดุ๊กกิลเบิร์ต แห่งลอร์เรน (Duke Gilbert of Lorraine) ซึ่งก่อกบฏแต่ล้มเหลว และได้หนีมาอยู่กับเฮนรี่  และเฮนรี่พยายามเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้ 
921 กษัตริย์ชาร์ล ส่งกองทัพบุกเยอรมันโดยได้ยึดเมืองอัลแซค (Alsace) ไว้ได้ และเมื่อกองทัพมาถึงเมืองวอร์ม (Worms) ก็ได้ทราบข่าวว่าเฮนรี่กำลังนำกองทัพมา  ชาร์ลก็ได้ตัดสินใจนำกองทัพกลับฟรานเซียตะวันตก
7 พฤศจิกายน 921, แต่ระหว่างทางชาร์ล กับเฮนรี่ได้มีโอกาสพบกันในเมืองบอนน์ ซึ่งทั้งคู่ได้เจรจาสงบศึกกัน และต่อมาได้ทำเป็นสนธิสัญญาแห่งบอนน์ (Bonn Agreement)
เฮนรี่ โจมตีบาวาเรีย และสามารถเอาชนะได้ 
925 ดุ๊กกิลเบิร์ต แห่งลอร์เรน  ก่อกบฏ เพราะเปลี่ยนใจกลับไปสนับสนุนดุ๊กแห่งเบอร์กันดี (Raul ,Duke of Burgundy) ซึ่งกลายมาเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของฟรานเซียตะวันตก   เฮนรี่จึงได้ทรงกองทัพเข้าไปปราบ และยึดลอร์เรนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมัน และสามารถกับตัวกิลเบิร์ตได้ที่เมืองซูลพิช (Zülpich) แต่ว่าหลังปราบกิลเบิร์ตได้แล้ว ไม่ได้ลงโทษ แต่ยังปล่อยให้กิลเบิร์ตดูแลลอร์เรนแต่ไป จนปี 928 ยังได้ให้ธิดาองค์หนึ่งมาแต่งงานกับกิลเบิร์ต
926  ชาวฮังการี (Magyars~ Hungarians) โจมตีเยอรมันและอิตาลี เยอรมันของเฮนรี่โดนโจมตีหลายครั้งตั้งแต่ปี 919 ซึ่งชาวฮังการีนอกจากจะเข้ามาปล้นแล้วยังเผาเมือง อย่างวิหารเซนต์แกลเลน (St.Gallen monastery) ก็ถูกทำลาย แต่ว่าเฮนรี่ยังไม่สามารถเอาชนะชาวฮังการีได้  แต่ในปีนี้ระหว่างที่พยายามจะโจมตอบโต้ เฮนรี่โชคดีสามารถจับตัวเจ้าชายคนหนึ่งของฮังการีไไว้ได้ จึงนำมาซึ่งการทำสัญญาสงบศึกระหว่างกัน โดยที่เฮนรี่ยอมส่งเครื่องบรรณาการณ์ให้ ทำให้สงครามกับฮังการีสงบไปเกือบสิบปี แต่เฮนรี่มีเวลาในการเตรียมกองทัพใหม่ 
928 รบกับชาวสลาฟ เผ่าเฮเวลลิ (Slavic Hevelli tribes~Gavelyane) และยึดเมืองบรานเดนบูร์ก (Brandenburg~Branibor) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเฮเวลลิได้ เจ้าชายของสลาฟชื่อตุกุเมียร์ (Price Tugumir) ถูกจับและนำตัวไปแซ็คโซนี
ต่อมาเฮนรี่ได้โจมตีชาวสลาฟ เผ่าดาเลมินเซฟ (Dalemintsev tribes) ซึ่งตั้งถิ่นฐานบริเวณตะวันออกของแซ้คโซนี  และยึดดินแดนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเอลบี (Elbe river) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองไมส์เซน (Meissen)  มาได้
929 โจมตีโบฮีเมีย (Bohemia) เนื่องจากดุ๊กเวนเซสลัส ที่ 1  (Duke Wenceslaus I) ไม่ยอมส่งเครื่องบรรณาการณ์
932 เฮนรี่หยุดส่งเครื่องบรรณาการณ์ให้กับฮังการี
933 Battle of Raide, เยอรมันรบกับฮังการีบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอันสทรัค (Unstrut river) ในหมู่บ้านเรด (Raide) ในธูรินเกีย และสามารถรบชนะได้ 
936 2 กรกฏาคม สวรรคตภายในพระราชวังในเมืองเมมเลเบนเมืองซึ่งเป็นที่ประสูตร หลังจากนั้นพระศพถูกนำไปฝังที่วิหารในคิดลิงบูร์ก ( Quedlingburg Abbey)
เมื่อเฮนรี่สวรรคต   เจ้าชายอ๊อตโต ที่ 1 (Otto The Great) เป็นผู้้สืบทอดอาณาจักร ซึ่งต่อมากลายมาเป็นจักรพรรดิองค์แรกผู้ก่อตั้งจักรวรรดิโฮลี่โรมัน (Holy Roman Empire) 
Don`t copy text!