Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

George Petrovic

จอร์เจ เปโตรวิค (Ђорђе Петровић Карађорђе)

ฉายา Karadjordje (Black George) ผู้ก่อตั้งเซอร์เบีย และราชวงศ์การาจอร์จเจวิค (Karađorđević dynasty, Karadjordjevic)
การาจอร์เจ เกิดในวันที่ 3 พฤศจิกายน 1768 ในหมู่บ้านวิสแว็ค (Viševac village, Serbia) ซึ่งขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอ็อตโตมาน (Ottoman Empire) พ่อของเขาชื่อเปตาร์ (Petar Jovanović) และแม่ชื่อมาริค่า (Marica Živković) ครอบครัวของเขามีฐานะยากจน
1785  แต่งงานกับเจเลน่า (Jelena Jovanović) พวกเขามีลูกด้วยกัน 7 คน Sava, Sara, Poleksija, Stamenka, Siam, Aleksa, Alexander เจเลน่ามาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและพ่อแม่ของเธอคัดค้านการแต่งงานของทั้งคู่
หลังการแต่งงานการาจอร์เจ ได้สังหารชาวเติร์กคนหนึ่งสาเหตุของการสังหารคาดว่าอาจจะมาจากกฏ Right of First Night ที่อนุญาตให้เจ้าของที่ดินสามารถนอนกับเจ้าสาวของทาสได้เป็นคนแรก  , การาจอร์เจทำให้เขาพาครอบครัวหนีไปยังไซร์เมีย (Syrmia)  และไปอาศัยอยู่กับโบสถ์ครูเซโดล (Krušedol monastery)
1786 (อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง) ประมาณปี 1786 นี้ การาจอร์เจ สังหารพ่อของตัวเขาเอง สาเหตุอาจจะมาจากเปตาร์ทำงานให้ชาวเติร์กมายาวนาน แล้วเขาต้องการให้ลูกชายกลับมาทำงานเป็นทาสให้กับพวกเติร์กอีก ซึ่งการาจอร์เจไม่พอใจ 
แต่พุชกิ้น (Alekxander Pushkin) เอาเรื่องราวนี้ไปเขียนในกวีบทหนึ่งของเขา  Songs of the Weestern Slavs / Songs of the Black Georgia
1787 ช่วงสงครามออสเตรีย-อ็อตโตมาน (Austro-Turkish war, 1787)  ได้สมัครเข้าเป็นทหารอาสาสมัครในหน่วยฟรีคอร์ป (Freikorps) ซึ่งสนับสนุนออสเตรีย ฟรีคอร์ปพยายามบุกกรุงเบลเกรดแต่ว่าล้มเหลว หลังจากนั้นได้ไปรบอยู่ทางใต้ของเซอร์เบีย
1791 peace os sistova การรบสงบลง และการาจอร์เจได้รับเหรียญกล้าหาญ ,  เขาเดินทางกลับเซอร์เบียและเข้าร่วมกับกลุ่มฮาจดุกส์ (Hajduks) หรือเรียกกันว่าเป็นกลุ่มโรบินฮูด ซึ่งไม่นานเขากลายเป็นผู้นำของกลุ่ม
1793 กลุ่มฮาจดุกส์ถูกยกเลิกไป เดินทางกลับมาอยู่กับครอบครัวที่เมืองโตโปล่า (Topola) และทำงานเป็นพ่อค้าปศุสัตว์
1801 หน่วยทหารจานิสสารี (Janissary) ของอ๊อตโตมาน Osman Pazvantoglu ได้กดขี่ชาวเซิร์บอย่างหนััก มีการสังหารชาวเซิร์บจำนวนมาก รวมทั้งคนร่ำรวยและนักบวช การาจอร์เจเองก็ถูกตามล่าแต่เขาหลบหนีมาได้ ,   ชาวเซิร์บจึงจับอาวุธเพื่อต่อต้านอ๊อตโตมานอีกครั้ง (First Serbian Uprising) 
1804 15 กุมภาพันธ์ (2 กุมภาพันธ์ O.S.), แกนนำชาวเชิร์บ 300 คน รวมตัวกันที่โอราแซ็ค (Orasac, Aradelovav) ในที่ประชุมได้เลือก การาจอร์เจ เป็นผู้นำเซิร์บ ซึ่งมีกำลังทหารราว 30,000 คน 
 ซึ่งเกิดการบกันหลายครั้ง Battle of Ivankovac (1805), Battle of Misar (1806), Battle of Deligrad (1806)
1806 ปลายปี กรุงเลบเกรด  (ฺBelgrade) ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ การาจอร์เจประกาศยกเลิกระบบฟิวดัล (Feudal) ในทุกเขตของเซอร์เบียที่ได้รับการปลดปล่อย  ในตอนนั้นอ็อตโตมานยินดีที่จานิสสารีถูกขับไล่ออกไป และตั้งใจจะส่งผู้ปกครองคนใหม่ pasha มาแทน แต่ว่าการาจอร์เจต้องการให้เซอร์เบียมีอิสระภาพ  การาจอร์เจ ส่งอิชโก่ ปีเตอร์ (Ichko Peter) เดินทางไปยังอิสตันบูล (Istanbul) เพื่อเจรจากับอ๊อตโตมาน แต่ว่าการเจรจาล้มเหลว
1807 เซิร์บในเซอร์เบีย ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และเริ่มสงครามกับอ๊อตโตมาน
1812 รัสเซียเกิดมีสงครามกับนโปเลียน ทำให้ยอมทำสนธิสัญญาสันติภาพกับอ๊อตโตมาน ทำให้เซอร์เบียต้องต่อสู้กับอ๊อตโตมานลำพัง เซอร์เบียล้มเหลวในการเจรจาสนธิสัญญาบุชาเรต (Bucharest treaty) กับอ๊อตโตมาน
1813 อีอตโตมานส่งกองทัพบุกเซอร์เบียร์อีกครั้ง
21 กันยายน, การาจอร์เจต้องหนีออกจากประเทศไปยังออสเตรีย  
ต่อมาได้เดินทางไปเบสซาราเบีย (Bessarabia) และได้ติดต่อกับกลุ่มฟิลิกิอีเตเรีย (Filiki Eteria~Society of Friends) ในกรีซ ซึ่งกลุ่มนี้ต้องการปลดปล่อยกรีซจากอ๊อตโตมานเช่นกัน
1817 ถูกสังหารในคืนวันที่ 25-26 กรกฏาคม (13-14 กรกฏาคม O.S) ระหว่างที่เขาแอบเดินทางกลับเข้ามาในเซอร์เบีย ในหมู่บ้านราโดวาน (Radovan) โดยผู้ที่สังหารเขาคือไมลอส โอบรีโนวิค (Miloš Obrenović), วุจิค้า (Vujica Vulićević), นิโคล่า (Nikola Novaković)  ซึ่งหลังการาจอร์เจเสียชีวิต ไมลอส ได้กลายเป็นผู้นำชาวเซอร์เบียสู้กับอ๊อตโตมาน แต่ว่าแพ้ อย่างไรก็ตามอ๊อตโตมานมอบอำนาจปกครองตัวเองให้เซอร์เบีย และไมลอสกลายเป็นกษัตริย์ 
ร่างของเขาถูกเผาที่สุสานเซนต์จอร์จ (Mausoleum of St. George) ในเมืองอ๊อปเลแน็ค (Oplenac) เซอร์เบีย
มีคนถามนโปเลียนว่าใครเป็นนักรบที่เก่งกล้าที่สุด
นโปเลียนตอบว่า “ ตัวข้าเองนั้นง่ายดายเหลือเกินที่จะเป็นที่สุด เพราะว่าข้ามีกองทัพที่มีประสบการณ์และมีทรัพย์มากมาย แต่ในดินแดนที่ห่างออกไปทางใต้ ในบอลข่าน มีนายพลอยู่ท่านหนึ่ง เขามีชาติกำเนิดจากชาวนาธรรมดา และทหารของเขาเป็นเพียงคนเลี้ยงสัตว์  แต่เขาสามารถประสบความสำเร็จเพียงใช้ปืนที่ทำจากไม้เชอร์รี่ แต่สามารถสั่นคลอนอ๊อตโตมานอันเกรียงไกร และปลดปล่อยชาติของเขา นายพลท่านนั้นชื่อ การาจอร์เจ …
It’s easy for me to be the Greatest without experienced troops and huge resources. But far away on the south on Balkans, there is one General, he sprung up from the common peasant people, and gathered around him his shepherds. he succeeded without weapons and only with cherry tree canon to convulse the fundaments of mighty Ottoman Empire and to liberate his enslaved nation. That General is Black George
Don`t copy text!