Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Helen Keller

เฮเลน เคลเลอร์  (Helen Adams Keller)

เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน  1880 ที่ทัสคัมเบีย รัฐอลาบาม่า (Tuscumbia, Alabama)  พ่อของเธอชื่ออาร์เธอร์ (Arthur H. Keller)  เขาเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพฝ่ายสหพันธ์ (Confederate Army) ในช่วงสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกา  ส่วนแม่มีชื่อว่าแคทเธอรีน (Katherine Adams Keller)  , เคลเลอร์ เป็นลูกสาวคนโต และมีน้องสาวอีกหนึ่งคน   ครอบครัวเคลเลอร์ทำอาชีพปลูกฝ้ายเป้นอาชีพหลัก และอาร์เธอร์ทำงานเป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ The North Alabamian
ตอนเด็กเคลเลอร์เป็นเด็กพิเศษมาก เธอเริ่มพูดคำแรกตั้งแต่อายุ 6 เดือน และสามารถที่จะเดินได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ
1882 เธอล้มป่วย ด้วยโรคซึ่งยังเป็นปริศนาว่าจริงๆ แล้วเป็นโรคอะไร แพทย์ประจำครอบครัวเรียกโรคนี้ว่า “brain fever” ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็น ไข้อีดำอีแดง (scarlet fever) หรือโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis) อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ว่าผลจากการล้มป่วยนี้ทำให้เคลเลอร์ อายุยังไม่ถึงสองขวบสูญเสียการมองเห็น หูหนวก และยังกลายเป็นใบ้
หลังจากนั้นเคลเลอร์ในวัยเด็กกลายเป็นคนกร้าวร้าว อารมณ์รุนแรง เคลเลอร์ได้เพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ตอนหกขวบเคลเลอร์ได้รู้จักกับมาร์ธ่า (Martha Wasington) เด็กผู้หญิงวัยไล่เรี่ยกันที่เป็นเพื่อนบ้าน เธอทำสัญลักษณ์ต่างๆ กว่า 60 ชนิดเพื่อสื่อสารกัน และใช้สื่อสารกับครอบครัว แต่บ่อยครั้งที่เคลเลอร์ก็ใช้กำลัง และทารุนมาร์ธ่า เวลาที่เธอโมโห
1887 แม่ของเคลเลอร์อ่านหนังสือของชาร์ล ดิคเก้นส์ (Charles Dickens) เรื่อง American Notes ซึ่งเล่าถึงความสำเร็จในการสอนให้ผู้หญิงตาบอดและหูหนวกเรียนหนังสือ  พวกเขาถึงต้องการที่จะสอนให้เคลเลอร์ทำให้ได้บ้าง
เคลเลอร์และพ่อเดินทางมาพบกับ ดร.จูเลียน  (Dr. J. Julian Chisolm) ในบัลติมอร์ ซึ่ง ดร.จูเลี่ยน ต่อมาได้แนะนำให้เคลเลอร์ไปกับกับอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) ซึ่งตอนนั้นเบลล์กำลังพยายามผลิตอุปกรณ์สำหรับเด็กหูหนวก เบลล์แนะนำให้ครอบครัวเคลเลอร์ไปที่สถาบันเปอร์กิ้น 
พ่อและเคลเลอร์เดินทางมาที่สถาบันเปอร์กิ้น (Perkins Institute for the Blind) ในบอสตัน  เคลเลอร์ถูกแนะนำให้รู้จักแอนน์  ซัลลิแวน  (Anne Sullivan) แอนน์เป็นศิษย์เก่าของสถาบันเปอร์กิ้นท่เพิ่งเรียนจบไปไม่นาน ตอนนั้นเธอมีอายุ 20 ปี  
แอนน์ กลายมาเป็นครูของเคลเลอร์ เธอเดินกลับไปบ้านที่อลาบาม่าพร้อมกับครอบครัวเคลเลอร์ 
แอนน์ สอนเคลเลอร์ให้รู้จักการใช้ภาษามือ และเริ่มการออกเสียง คำแรกที่เคลเลอร์เรียนคือ “doll” หลังจากนั้นทั้งแอนน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเคลเลอร์ที่ยืนยาวเกือบห้าสิบปี จนแอนน์เสียชีวิต 
1890 เคลเลอร์เข้าเรียนที่โรงเรียน Horace Mann School ในบอสตัน เพื่อเรียนการพูด 
1894 ย้ายมาเรียนที่ Wright-Humanson School ในนิวยอร์ค
1896 เธอสมัครเข้าเรียนที่ Cambridge School for Young Ladies ทำให้เรื่องราวของเคลเลอร์ได้รับความสนใจ แม้แต่มาร์ก ทเวน (Mark Twain) ก็ทำความรู้จักกับเธอและกลายมาเป็นเพื่อนกัน ซึ่งทเวน ช่วยให้เคลเลอร์ได้รับทุนจากบริษัทสแตนดาร์ดออย (Stadard Oil) ซึ่งเพื่อนของทเวนเป็นผู้บริหารอยู่  ในการเข้าเรียนที่ Radcliff College  เคลเลอร์เข้าเรียนที่นี่ในปี 1900 โดยที่แอนน์ ติดตามมาด้วยเพื่อทำหน้าที่เป็นคนช่วยแปล ซึ่งที่นี่เคลเลอร์ได้เรียนการพิมพ์ดีด การใช้ภาษาเบลล์ และใช้ภาษามือ
1903 The Story of My Life เคลเลอร์เขียนหนังสือชีวประวัติตัวเองในช่วงเวลาตังแต่เด็กจนกระทั้งกลายมาเป็นนักศึกษาอายุ 21 ปี 
1904 เรียนจบจากวิทยาลัยแรดคลิฟฟ์ เคลเลอร์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทั้งหูหนวก และเป็นใบ้ ที่เรียนจบปริญยาตรีด้านศิลปศาสตร์ (Bachelor of Arts) 
1909 เข้าร่วมกับพรรคสังคมนิยม (Socialist Party) เคลเลอร์เขียนบทความต่างๆ มากมาย เพื่อสนับสนุนสิทธิสตรี สิทธิคนพิการ และต่อต้านสงคราม แต่ว่าเธอก็ต่อต้านพวกสังคมนิยมหัวรุนแรง 
1914 แอนน์ เริ่มมีปัญหาสุขภาพ ทำให้มีการจ้างพอลลี ธอมสัน (Polly Thompson) มาเป็นผู้ช่วยอีกคนให้กับทั้งคู่ 
1915 ก่อตั้งสถาบัน Helen Keller International ร่วมกับจอร์จ เคสสเลอร์ (George Kessler) เพื่อช่วยเหลือคนตาบอด
1920 ร่วมก่อตั้ง American Civil Liberties Union 
1924 เข้าเป็นสมาชิกของสถาบัน American Foundation for the Blind ซึ่งก่อตั้งในปี 1921 
1936 แอนน์ ครูของเคลเลอร์เสียชีวิต หลังจากนั้นเคลเลอร์และพอลลี ก็ย้ายไปอยู่ที่คอนเนคติคัส (Connecticut) 
1946 เคลเลอร์ได้รับแต่งตั้งจากมูลนิธิอเมริกันเพื่อคนตาบอด (American Foundation of Oversea Blind) ให้เป็นทูต ทำให้เธอต้องเดินทางไปหลายสิบประเทศตลอดทศวรรษต่อมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจให้กับคนพิการ ตาบอด หูหนวก หลายล้านคนทั่วโลก 
1961 เร่ิมล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ (Storke)  ซึ่งหลังจากนั้นสุขภาพของเธอไม่เคยกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีก  
1968 1 มิถุนายน เสียชีวิตขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะมีอายุครบ 88 ปี 
เฮเลน เคลเลอร์ ชอบเลี้ยงสุนัข เธอเคยเลี้ยงหมาพันธ์พิต บูลล์ (Pit Bull) และพันธ์อกิตะ (Agita) ของญี่ปุ่น อกิตะของเคลเลอร์ชื่อ คามิคาเซ่-โก๊ะ (Kamikaza-Go) เธอได้อกิตะมาจากตำรวจญี่ปุ่นชื่อิชิโร่  (Ichiro Ogasawara)  หลังจากเธอเดินทางไปญี่ปุ่นแล้วได้ฟังเรื่องราวของ ฮาชิ-โก๊ะ (Hachi-Ko, 1923-1935) หมาที่รอเจ้าของอยู่ที่เดินทุกวันที่สถานีชิบูย่า , เคลเลอร์ได้รับเครดิตว่าเป็นคนแรกที่พาสุนัขพันธ์อกิตะไปยังสหรัฐ  ซึ่งในปี 1939 เธอยังได้อชิตะ อีกตัวหนึ่ง เธอตั้งชื่อว่า เคนซาน-โก๊ะ (Kenzen-Go)
ผลงานเขียน
  • The Story of My Life (1903)หนังสือเล่มนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ The Miracle Worker 
  • The World I Live (1908)
  • My Religion หรือ Light in My Darkness (1927) 
Don`t copy text!