Peter Kropotkin

 เจ้าชายปีเตอร์ โครปอตกิ้น เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1842 , พ่อของเขาคือ อเล็กซี เปโตรวิช โครปอตกิ้น (Alexie Petrovich Kropotkin) เป็นเจ้าชยแห่งสโมเลนส์ก ในราชวงศ์รูริก (Rurik dynasty) ซึ่งเคยปกครองรัสเซียมากก่อน แม่ของเขาชื่อเยแคทเธอรีน่า  (Ekaterina Sulyma) เป็นลูกสาวของนายพลเชื้อสายคอสแซค เป็นตระกูลสายตรงที่สืบเชื้อสายมาจากอีวาน สุไลมา (Ivan Sulyman) คอสแซคที่เคยปกครองบริเวณยูเครน เยแคทเธอรีน่าเสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่โครปอตกิ้นมีอายุเพียง 3 ขวบ ครอบครัวของเขาร่ำรวยมากมีทาสในปกครองกว่าพันนาย

1857 เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร  Corps of Pages ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับลูกหลานขุนนางระดับสูง ซึ่งต่อมาอีกสี่ปีเขาได้ทำงานเป็นทหารองค์รักษ์ให้กับพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 2 (Alexander II)

1862 สมัครเข้าประจำการในหน่วยทหารคอสแซคที่ประจำการอยู่ในไซบีเรียนตะวันออก ในเมืองเออร์กุตส์ก (Irkutsk) ระหว่างนี้เขาสนใจงานเขียนของปรัวดอน (Pierre-Joseph Proudon) และบาคุนิน (Mikhail Bukunin) จนทำให้ตัวเขาชื่นชอบแนวคิดแบบอนาธิปไตย

1864 เขารับหน้าที่ในการออกเดินทางสำรวจภูมิศาสตร์บริเวณไซบีเรีย แมนจูเรียตอนเหนือ และลุ่มแม่น้ำซันการิ (Sungari river)

1867 เขาลาออกจากกองทัพ และเดินทางกลับมายังเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยด้านคณิศาสตร์และฟิสิกที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และยังได้ทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่ในแผนกภูมิศาสตร์ของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งรัสเซีย (Russia Geographical Society)

1871 เดินทางไปสำรวจธารน้ำแข็งในฟินแลนด์และสวีเดน และว่าช่วงฤดูไม้ไม้ผลิเขาต้องเดินทางกลับมอสโคว์เพราะว่าพ่อของเขาเสียชีวิต

1872 เดินทางเยือนสวิสเซอร์แลนด์ และได้เป็นสมาชิกของสมาคมแรงงานสากล ( International Workingmen’s Assoaciation , IWA ) ซึ่งมีแนวคิดแบบสังคมนิยม แต่ว่าโครปอตกิ้นเป็นคนหัวรุนแรง จึงได้เข้าพวกกับฝ่ายกลุ่มสหพันธ์จูร่า  (Jura Federation) ซึ่งเดิมที่เป็นกลุ่มหนึ่งใน IWA ที่มีแนวคิดแบบอนาธิปไตย แต่ในปีนี้สหพันธ์จูร่าถูกไลออกจาก IWA หลังการประชุมในช่วงเดือนกันยายน โดยที่มีบาคุนินเป็นผู้นำของกลุ่ม

หลังจากกลับมารัสเซีย เขาได้รับคำแนะนำจากดมิทรี คลีเมนต์ (Dmitri Klement) เพื่อนของเขา ให้เข้าไปในกลุ่มผู้ติดตามของนิโคไล ทีไชคอฟสกี ( Circle of Tchaikovsky ) ซึ่งในช่วงนี้กิจกรรมของกลุ่มเปลี่ยนมาเป็นการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแรงงานและการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งกลุ่มนี้ต่อสามารถสร้างสหภาพแรงงานแห่งแรกของรัสเซียได้ ชื่อสภาพแรงงานของรัสเซียใต้ (South Russian Workers Union) ก่อตั้งในโอเดสสา

1874 22 มีนาคม 1874 ถูกจับในข้อหาเกี่ยวข้องกับสมาคมลับที่ผิดกฏหมาย เขาถูกนำไปขังที่ค่ายปีเตอร์แอนด์พอล (Peter and Paul Fortress) แต่เพราะว่ามีภูมิหลังมาจากครอบครัวชนชั้นสูง ระหว่างอยู่ในคุกเขาจึงได้รับสิทธิพิเศษ สามารถทำงานด้านวิทยาศาสตร์ต่อไปได้ ซึ่งเขาได้เขียนรายงานไปยังสมาคมภูมิศาสตร์รัสเซีย เรื่องเกี่ยวกับการมีอยู่ของยุคน้ำแข็งในอดีต (Ice Age)

1876 ถูกย้ายมายังเรือนจำอีกแห่งหนึ่งที่มีความเข้มงวดน้อยลง ไม่นานก่อนที่จะมีการพิจารณาคดี ซึ่งโครปอตกิ้นได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนให้หนีออกมาได้  ซึ่งเขาได้หลบหนีออกไปอังกฤษ ก่อนที่จะเดินทางมายังสวิสเพื่อสมทบกับกลุ่มสหพันธ์จูร่า 

1877 มาอยู่ในปารีส เข้าร่วมการเดินขบวนกับสหพันธ์จูร่า ในวันที่ 18 มีนาคม ในโอกาสครบรอบ 6 ปีของการก่อตั้งปารีสคอมมูน (The Paris Communse) ช่วงปี 1971 ปารีสคอมมูน  ที่ถูกอนุมานว่าเป็นเหมือนรัฐบาลของกรุงปารีสที่บริหารโดยชนชั้นแรงงาน  แต่มีอายุอยู่ได้เพียง 3 เดือน

1878 กลับมาสวิส และทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ Le Revolte ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของสหพันธ์จูร่า 

ในปีนี้เขาแต่งงานกับ โซเฟีย (Sofia Ananeva-Rabinovich, Софье Григорьевне Ананьевой-Рабинович) เธออายุน้อยกว่าเขามาก เป็นชาวรัสเซียที่เดินทางมาเรียนในสวิส 

1881 ไม่นานหลังเกิดการลอบปลงพระชนษ์พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่  2 , โครปอตกิ้น ถูกเนรเทศออกจากสวิส  ทำให้เขาเดินทางไปอยู่ในฝรั่งเศส ก่อนที่จะเดินทางไปอังกฤษ 

1882 ช่วงปลายปี เขากลับมาที่ฝรั่งเศสอีกครั้งในช่วงปลายปี ต่อมา ซึ่งเขาไปอาศัยอยู่ในเมืองโทนอน (Thonon) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

22 ธันวาคม ถูกทางการฝรั่งเศสจับตัวเอาไว้  และถูกตัดสินจำคุกนานกว่า 5 ปี ในข้อหาที่เป็นสมาชิกของ IWA  และเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดร้ายอาหาร L’Assommoir ที่เมืองลีออน (Lyon)  , โครปอตกิ้นถูกนำไปขังไว้ที่เรือนจำ Clairvaux ระหว่างอยู่ในเรือนจำล้มป่วยหลายครั้งจากโรคมาลาเรีย และโรคเลือดออกตามไรฟัน (scurvy) จากการขาดวิตามินซี ระหว่างนี้ได้เขียนบทความเรื่อง What should be geography เป็นภาษาอังกฤษตีพิมพ์ลงในแม็กกาซีน 19th Century 

1886 เกิดการประท้วงโดยพวกฝ่ายซ้าย เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษ ทำให้โครปอตกิ้นถูกปล่อยตัว ซึ่งหลังจากพ้นโทษ เขาพาครอบครัวเดินทางไปอยู่ในลอนดอน ซึ่งลูกสาวของเขาชื่อว่า อเล็กซานดร้า (Alexandra) เกิดที่เมืองนี้ 

ระหว่างอยู่ในอังกฤษได้รู้จักกับนักสังคมนิยมหลายคนในเวลานั้นอย่าง จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ (George Bernard Shaw) วิลเลี่ยม มอร์ริส (William Morris) เจมส์ เมเวอร์  (James Mavor) ซึ่งโครปอตกิ้นได้ร่วมเดินขบวนกับพวกเขา ในการต่อต้านการลงโทษประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรง 7 คนเวลานั้นอย่าง หลุยส์ ลินกก์ (Louis Lingg) ออสการ์ นีบ์ (Oscar Neebe) ซามูเอล ฟิลเดน (Samuel Fielden) ซึ่งพวกเขาเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดเฮย์มาร์เก็ตในชิคาโก้  (Haymarket massacre)

1917 ในวัย 74 ปี เขาเดินทางกลับรัสเซียหลังการปฏฺิวัติเดือนกุมภาพันธ์ โดยมาถึงสถานีฟินแลนด์ (Finland Station) ในวันที่ 30 มีนาคม โดยที่มีคนมากมายมารอต้อนรับเขา ร่วมทั้งนายกรัฐมนตรีเคเรนสกี (Alexander Kerensky) และ ทีไซคอฟสกี

 หลังเลนินพยายามก่อการปฏิวัติในช่วงเดือนกรกฏาคมแต่ล้มเหลว , รัฐบาลเฉพาะกาลของเคเรนสกี ได้เสนอตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาให้กับเขา แต่ว่าเขาปฏิเสธ 

โครปอตกิ้น ไม่พอใจกับการปฏิวัติในเดือนตุลาคม ของพวกบอลเชวิค เขาบอกว่ามันเป็นการทำลายการปฏิวัติที่แท้จริง ซึ่งเขาเห็นว่าการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงนั้นควรมาจากคนที่มีแนวความคิดเสรีนิยมจริงๆ ไม่ใช่พวกที่ยึดติดในอำนาจ (by Authoritarian rather than Libertarian)  โครปอตกิ้น ด่าเลนิน ว่าเป็น นักปฏิวัติที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ เพราะว่านักปฏิวัตินั้นมักมีอุดมคติ แต่เลนินไม่มี (Lenin is not comparable to any revolutionary figure in history, Revolutionaries have had ideals. Lenin has none)

โครปอตกิ้นได้ทำนายเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว่า ประเทศที่ถูกปฏิวัติโดยพวกบอลเชวิคนั้นสุดท้ายแล้วจะล้มเหลว และจะกลับมาเป็นทุนนิยม 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของบอลเชวิคเคยเสนอตำแหน่งในรัฐบาลให้กับเขา แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะสังคกรรมด้วย , เขาพาภรรยาเดินทางไปอยู่ที่ดมิตรอฟ ชานเมืองมอสโคว์

1921  8 กุมภาพันธ์  วัย 78 ปี ปีเตอร์ โครปอตกิ้น เสียชีวิตในดมิตรอฟ (Dmitrov)  

10 กุมภาพันธ์ ร่างของเขาถูกนำขึ้นขบวนรถไฟพิเศษมายังมอสโคว์ โดยถูกนำมาไว้ที่อาคาร House of the Unions เพื่อให้ประชาชนร่วมไว้อาลัย

13 กุมภาพันธ์ ถูกฝังที่สุสาน Novodevichy cemetary โดยมีผู้สนับสนุนเขาหลายพันคนร่วมในพิธี โดยเฉพาะผู้นิยมอนาธิปไตย และผู้ต่อต้านบอลเชวิค …. โดยที่ได้รับอนุญาตจากเลนินเอง ให้เดินขบวนโดยมีป้ายต่อต้านบอลเชวิคได้ 

ผลงาน

• An Appeal to the Young, 1880
• Речи бунтовщика (Speeh of a Rebel, 1885)
• В русских и французских тюрьмах (In Russian and French Prisons,1887) 
• Хлеб и воля (Bread and Freedom ,1892 ) ~ The Conquest of Bread (La Conquête du Pain)
• Современная наука и анархия ( Modern Science and Anarchy,1892)
• Государство и его роль в истории (State and its role in history,1896)
• Анархия, её философия, её идеал (Anarchy and its philosophy, its ideal ,1896)
• Поля, фабрики и мастерские (Fields, FActories and Workshops,1899)
• Записки революционера (Memoirs of a Revolutionary,1902)
• Взаимопомощь как фактор эволюции (Mutual aid as a factor in evulution,1902)
• Идеалы и действительность в русской литературе (Ideal and Reality in the Russian literature,1905)
• Нравственные начала анархизма (Moral Begining of anarchism,1906)
• Великая французская революция 1789—1793 (The French Revolution 1789-1793, 1909)
• Этика (Ethics,1921)