Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Mikhail Tukhachevsky

มิคาอิล ตุคาเชฟสกี (Михаил Николаевич Тухачевский)

จอมพลแห่งกองทัพแดง , ในยุคของสตาลิน เขาถูกประหารในข้อหาทรยศและเป็นสายลับ
 ตุคาเชฟสกี เกิดในครอบครัวเกษตรกรที่ร่ำรวยในสโมเลนส์ก (Smolensk Oblast) จังหวัดซาฟอนอฟสกี (Safonovsky district) พ่อชื่อว่านิโคไล (Nikolai Nikolaevich Tukhachevsky) และแม่ชื่อ มาฟร่า เปตรอฟน่า (Mavra Petravna)
เขาเกิด  ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1893
1904-1909  เรียนที่เพนซ่า ยิมเนเซียม หมายเลข 1 (1st Penza gymnasium)
1912 จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร หมายเลข 1 ในมอสโคว์ (1st Moscow Cadet Corps)
1914  เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนการทหารอเล็กซานเดอร์ (Aleksandrovskoye military school) หลังจากนั้นได้เข้าร่วมกับหน่วยเซมยอนนอฟสกี (Semyonovsky guard rigiment) ทำให้มีโอกาสร่วมรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
1915 กุมภาพันธ์ เขาถูกทหารของกองทัพเยอรมันจับตัวเอาไว้ได้ และถูกนำไปกักขังในค่ายบาวาเรีย (Bavarian fortess) ที่ตั้งขึ้นใน เมืองอินโกลสแตท์ (Ingolstadt) ซึ่งเอาไว้ขังเชลยที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระหว่างอยู่ในคุกนี้ ตุคาเชฟสกี มีโอกาสพบ ชาร์ล เดอ โกล (Charles de Gualle) ซึ่งต่อมากลายเป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส, ตุคาเชฟสกี พยายามที่จะหลบหนีออกจากคุกหลายครั้ง จนครั้งที่ 5  เขาสามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จ และเดินทางกลับมาถึงรัสเซียในเดือนตุลาคม
1917 เข้าร่วมกับฝ่ายบอลเชวิคในช่วงการปฏิวัติ ทำให้ตำแหน่งหน้าที่ของเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับบอกว่าการปฏิวัติตุลาคมและการตัดสินใจอยู่กับกองทัพแดงคือการเริ่มต้นที่แท้จริงของชีวิตเขา
ตุคาเชฟสกี ทำหน้าที่ต่อสู้กับทหารกองทัพขาวของนายพลคอลแชค (Aleksandr Kolchak) โดยตรงในช่วงสงครามกลางเมือง โดยกำลังของเขาต่อสู้อยู่ในไซบีเรีย
1920 เขาเดินทางลงมาตอนใ้ เพื่อต่อสู้กับทหารกองทัพเขาอีกหน่วย ของนายพลแอนตัน เดนิกิ้น (Anton Denikin) ในไครเมีย 
กุมภาพันธ์ เขาเป็นเริ่ม ปฏิวัติการณ์ติโคเรตสก่าย่า (Tikhoretskaya Operation, กุมภาพันธ์-มีนาคม 1920) นำทหารกองทัพแดงกว่า 50,000 คน เข้าโจมตีทหารกองทัพขาวของนายพลเดนิกิ้น  ในไครเมีย ทำให้กองทัพแดงสามารถยึดพื้นในเขตคูบาน (Kuban region) และสตาฟโรโพล (Stavropol) มาได้
พฤษภาคม ตุคาเชฟสกี ถูกย้ายมาปฏิบัติการณ์ในด้านโปแลนด์ แต่ว่าผลจบด้วยความพ่ายแพ้ของกองทัพแดง จนโซเวียตต้องทำข้อตกลงหยุดยิ่งกับโปแลนด์ในเดือนตุลาคม
1921 มีนาคม ตุคาเชฟสกี ได้รับคำสั่งให้เข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายซ้าย ที่ลุกฮือกันต่อต้านการปกครองของบอลเชวิค บนเกาะครอนสแตดท์ (Konstadt uprising) ในอ่าวฟินแลนด์ ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก  , เขาใช้กำลังทหารกว่า 60,000 คน และอาวุธหนักทั้งระเบิดเพลิง และก๊าซพิษ  เข้าโจมตีฝ่ายผู้ประท้วงซึ่งเป็นทหารเรือและแรงงาน  ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสกว่าหมื่นนาย และเสียชีวิตกว่า 2500 คนจากทั้งสองฝ่าย ผู้ประท้วงหลายพันคนถูกจับตัวส่งไปค่ายใช้แรงงานในตามบอฟ (Tambov) และ โวโรเนซ (Voronezh) ซึ่งตุคาเชฟสกี เริ่มเอาวิธีการลงโทษโดยกการใช้แรงงานหนัก การสังหารหมู่ และรมแก๊สพิษมาใช้กับพวกเขา
ในปีนี้เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าของสถาบันการทหารกองทัพแดง (Chief of the Red Army Military Academy)
1925-1928 ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเสนาธิการทหาร (Chief of General Staff)
1934 เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม (Deputy People’s commissar of Defense)
1935 พฤศจิกายน ได้รับตำแหน่งจอมพล (Marshal) ขณะที่มีอายุ 42 ปี พร้อมๆ กับจอมพลคนอื่นอีก 5 คนที่ได้รับแต่งตั้งพร้อมกัน ช่วงเวลานี้เขามีผลงานด้านการปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย เขาเขียนตำรากลยุทธ์ในสงครามออกมาหลายเล่ม เขาก่อตั้งสถาบันการทหาร ด้านการโดดร่ม, การรถถัง,การยิงปืนใหญ่ และสถาบันการบินหลายแห่ง และผลักดันการวิจัยจรวดและอาวุธไฮเทคอย่างเต็มที่
1936 เป็นรองอันดับหนึ่งรัฐมนตรีกลาโหม
1937 22 พฤษภาคม , เขาถูกจับโดยคำสั่งโดยตรงจากสตาลิน เขาถูกตั้งข้อหาเรื่องพยายามวางแผนล้มล้างบอลเชวิค โดยที่มีผู้บัญชาการทหารอีก 7 คนถูกจับในเวลาเดียวกัน   
ระหว่างถูกจองจำนั้น เขาให้การยอมรับสารภาพและยอมถูกปลดออกจากทุกตำแหน่ง แต่ก็เข้าใจได้ว่าเขาคงถูกทรมานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจลับ
11 มิถุนายน นักโทษทั้งหมด 8 คน รวมตุคาเชฟสกี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาเป็นสายลับและเป็นทรยศชาติ โดยศาลสูงสุดของโซเวียต , วันนี้มีบางคนบอกว่าได้ยินเขาพูดประโยคว่า “ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันกำลังฝัน, พรุ้งนี้ฉันคงจะกลับไปเหมือนเดิม”  ในคืนวันนี้เอง ประมาณ ห้าทุ่มครึ่ง ตุคาเชฟสกี ถูกประหารโดยการยิงที่ศรีษะ
ภรรยาของตุคาเชฟสกี ชื่อนิน่า (Nina) ถูกจับขังคุก ก่อนจะถูกตัดสินประหารในปี 1941 , แม่และน้องสาวของเขาตายระหว่างอยู่ในคุก แต่ว่ามีน้องสาว 3 อลิซาเบธ,โอลก้า, แมรี่  (Elizabeth, Olga, Mary) คนที่รอดชีวิตในค่ายกักกันมาได้ แต่ว่าสามีของพวกเธอถูกยิงตายทุกคน  , พี่น้องผู้ชายอีก 2 นิโคลัส และอเล็กซานเดอร์ (Nicholas, Alexander) คนของเขาก็ถูกประหารด้วยเช่นกัน
ลูกสาวคนเดียวของเขา ชื่อสเว็ตลาน่า (Svetlana) อยู่ในค่ายกักกัน จนปี 1957 ในสมัยของครุสเชฟ  เธอกลับมาอาศัยในมอสโคว์และเสียชีวิตในปี 1982
1957 มีการคืนตำแหน่งให้กับตุคาเชฟสกี ในสมัยของนิกิต้า ครุสเชฟ 
1988 ในสมัยของกอร์บาเชฟ , คำกล่าวหาและคำตัดสินต่อตุคาเชฟสกี ถูกลบล้าง
Don`t copy text!