Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Arkady Gaidar

Arkady Gaidarphoto:wikipedia.org

อาร์คาดี เปรโตวิช เกดาร์ (Аркадий Петрович Гайдар)

นักเขียนวรรณกรรมเยาวชน อดีตทหารในกองทัพแดง

      เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1904 (9 มกราคม, เดิม), ชื่อจริงตอนที่เขาเกิดคือ อาร์คาดี โกลีคอฟ (Arkady Golikov)  ในครอบครัว พ่อของเขาชื่อ ปีเตอร์ โกลีคอฟ (Pyotr Golikov) ทำงานเป็นครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง  และแม่ชื่อว่านาตาเลีย (Natalia Salkova) มาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง ,พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองลกอฟ (Lgov) เขตครูสก์ (Kursk region)
1905    ทั้งพ่อและแม่ของเกดาร์ มีส่วนร่วมในเหตุการณ์การปฏิวัติ 1905
1910    นาตาเลีย แม่ของเขา เรียนจบวิชาด้านการเป็นหมอแผนโบราณ และทำงานเป็นนางพยาบาลอยู่ช่วงสั้น ๆ
1912    ครอบครัวย้ายไปยังเมืองอาร์ซามาส (Arzamas) ในนิชนี นอฟโกรอด (Nizhny Novgorod region) 
1914    ปีเตอร์ พ่อของเขาเข้าร่วมในรบในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 , ขณะนั้นอาร์คาดี ที่อายุเพียงแค่ 10 ปี  ได้แอบหนีออกจากบ้านเพื่อไปตามพ่อในสมรภูมิ เขาหายออกจากบ้านไป 4 วัน และเดินทางไปไกลกว่า 90 กิโลเมตร แต่ก็ต้องกลับบ้านเพราะพร้อมความผิดหวัง
1918    อาร์คาดี วัย 14 ตัดสินใจอยากจะเข้าร่วมรบในสงครามโลกด้วย เขาจึงสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพแดง โดยโกหกว่าตัวเองอายุ 16 ปีแล้ว  ด้วยที่เขามีรูปร่างสูงใหญ่ทำให้ได้รับการคัดเลือก หลังจากนั้นเขาเข้ารับการฝึกเป็นทหารอยู่หนึ่งปีในเมืองเคียฟ และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้กองคุมหน่วยทหารในขณะที่อายุเพียง 16 ปี
1921    ช่วงสงครามกลางเมือง อาร์คาดี ได้ทำหน้าที่ในการรบกับฝ่ายตรงข้ามอยู่ในเขตตามบอฟ (Tambov)
1923    มีอาการป่วย ด้วยอาการปวดร่างกายรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์บอกว่าเขาเป็นโรคทรัวเมติค ซินโดรม ( Traumatic syndrome) ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับสภาวะจิตใจ เกิดขึ้นกับคนที่ผ่านความเครียดสูงมาก่อน  
1924    เมษายน เขาจะกลับมาทำงานในกองทัพเหมือนเดิม แต่เพราะสุขภาพที่ย่ำแย่จึงถูกจัดไว้เป้นกำลังพลสำรอง ซึ่งทำให้เขาผิดหวัง และได้ยืนใบลาออกจาก มิคาอิล ฟรุ๊นซ์ (Mikhail Frunze) ผู้บัญชาการกองทัพแดงขณะนั้น 
1925    เขาย้ายมาอยู่ที่เมืองเปิร์ม (Perm) และเริ่มเขียน เรื่องสั้นลงในหนังสือพิมพ์ The Star (Звезда) และมีผลงานเรื่อง Corner House(Угловой дом) พิมพ์ออกมา โดยที่เขาเริ่มใช้นามปากกาว่า Gaidar (Гайдарโดยที่มันแปลว่า “โกลีคอฟ อาร์คาดี จาก อาร์ซามาส"  (Голиков Аркадий из Арзамас) โดยที่ อีซ (из) เขาสะกดเลียนแบบภาษาฝรั่งเศส ที่ใช้ตัว ”d"
            ช่วงปี 1925 นี้ อาร์คาดี แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 17 ปี ชื่อ เรเชล (Leah(Rachel) Lazarevna Solomyanskaya, Лия Лазаревна Соломянская ) ในตอนนั้น และมีลูกชายเกิดขึ้นมาในปี 1926 ตอนที่อยู่ในเมืองอาร์แองเจิ้ล (Arkhangelsk) แต่ว่าหลังจากนั้น 5 ปี ภรรยาของเขาได้แยกทางกันไปในปี 1931
            ต่อมาในปี 1934 เขาได้บังเอิญเจอกับลูกชายในหมู่บ้านอีฟเนีย (Ivnya) ในเบลโกรอด (Belgorod region) ลูกชายของเขาชื่อ ทีเมอร์ (Timur Abramovich  Gaidar ) ราเชล นั้นทำงานเป็นคนเขียนบทละคร และหัวหน้าโรงละครในโซเวียต ส่วนทีเมอร์เมื่อโตขึ้น กลายเป็นนายทหารมีระดับนายพลในกองทัพเรือโซเวียต และเป็นพ่อของ ยีกอร์ เกดาร์ (Yegor Gaidar) นักเศรษฐศาสตร์ นายกรัฐมนตรี ในสมัยบอริส เยลต์ซิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในการปฏิรูปเศรษฐกิจรัสเซียหลังสหภาพโซเวียต


1930    The School  ผลงานที่คล้ายกับชีวิตของเขาเอง ซึ่่งมันได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของเขา เขาบอกเล่าชีวิตตอนที่เรียนหนังสือ และความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชาย จนกระทั้งตัวเขากระโดดเข้ามาเป็นทหารในกองทัพขณะที่อายุยังน้อย โดยที่ตัวเอกของเรื่องชื่อ บอริส กิริกอฟ (Boris Girikov) เป็นลูกของทหาร ซึ่งไม่นานหลังพิมพ์มันก็ได้รับความนิยมมากในหมู่เด็กนักเรียน
1938    อาร์คาดี แต่งงานใหม่อีกครั้งกับ ดี.เอ็ม. เชอร์นียเชว่า (Д. М. Чернышёвой)
1941    เมื่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 อาร์คาดี  กลับเข้าเป็นทหาร และทำงานเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษและเขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์ คอมโซมอลสกาย่า ปราพด้า (KP.ru) 
            26 ตุลาคม 1941  อาร์คาดี ถูกยิงโดยทหารนาซี ระหว่างอยู่ในหมู่บ้านเลฟยาโว่ (Leplyavo) เมืองคาเนฟ เขตเชอร์กาซี (Kanev,Cherkasy) ซึ่งมีเพื่อนทหารพบศพของเขานอนอยู่ใกล้กับรางรถไฟ สายคาเนฟ-โซโลโตโนช่า (Kanev-Zolotonosha) จึงได้จัดการเผาร่างของเขาในบริเวณนั้น
หลังสงคราม อัษฐิของเขาถูกนำกลับมายังเมืองคาเนฟ (Kanev) ในยูเครน และทำพิธีศพให้บนเนินแห่งหนึ่งที่สามารถมองเห็นแม่น้ำดนิปเปอร์ได้ ซึ่งฉากหนึ่งในหนังสือของเขาเรือ่ง Military Secret บอกว่าร่างของเด็กชายตัวเอก ถูกนำไปฝังบนเนินที่มองเห็นแม่น้ำสีฟ้าใส
เมื่อเรือล่องผ่านมา มันทิ้งเกลียวคลื่นมาที่เด็กชาย
เมื่อเครื่องบินบินผ่านมา มันหันปีกมาที่เด็กชาย
เมื่อรถไฟวิ่งผ่านมา มันปล่อยเสียงหวูดมาที่เด็กชาย
เมื่อนักผจญภัยน้อยๆ เดินผ่านมา พวกเขาคารวะต่อเด็กชาย
As ships sail past they wave to the Boy
As planes fly past they dip their wings to the Boy
As locomotives race past they whistle to the Boy
As Young Pioneers march past they salute the Boy
จาก The School, อังกฤษ  โดย Lev Kassil
ผลงาน
  • PBC (Revolutionary Military Council, 1925), 
  • Жизнь ни во что (Life in anything, 1926)
  • Школа  (The School,1930), 
  • Дальние страны (Distant Land, 1932)
  • Четвертый блиндаж (The Fourth Dugout, 1935)
  • Военная тайна (Military Secret, 1935)
  • Голубая чашка (Blue Cup,1936)
  • Судьба барабанщика  (Drummer’s Fate,1938)
  • Чук и Гек (Cuck and Ghek ,1939)
  • Тимур и его команда (Timur and his squad, 1940)
  • Горячий камень (Hot Stone,1941)
Don`t copy text!