Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Friedrich Naumowitsch Gorenstein

Friedrich Gorenstien , shoyher.narod.ru

http://shoyher.narod.ru/Portret_fajl/Gorenshtejnf.html


ฟรีดริช โกเรนสเตียน (Фридрих Наумович Горенштейн

นักเขียน ผู้เขียน Pile, Psalm
ฟรีดริช เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 1932 ในครอบครัวเชื้อสายยิว  พ่อของเขาชื่อ เนฮัม (Nahum Isaevich Gorenstein,1902-1937) เขาเป็นชาวออสเตรียที่อพยพมายังโซเวียต และทำงานเป็นศาสตร์จารย์ด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง อยู่ในเมืองเคียฟ ยูเครน ,  เนฮัม ถูกจับในปี 1934 และต่อมาก็ถูกยิงเป้าในวันที่ 8 พฤศจิกายน 1937
หลังการตายของพ่อฟรีดริช ถูกเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ Prilutsky 
แม่ของเขาชือว่า เอ็นน่า (Enna Abramovna Prilutskaya) เธอมีอาชีพเป็นครู ตอนที่ฟรีดริช อายุ 9 ขวบ ก็เกิดสงครามโลก เอ็นน่า พาลูกอพยพหนีภัยสงคราม พยายามมุ่งหน้าไปยังเมืองโอเรนเบิร์ก แต่ว่าเธอเสียชีวิตระหว่างทาง
ฟรีดริช ถูกส่งตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในช่วงสงคราม แต่เมื่อสงครามสงบแล้ว เขาไปอาศัยอยู่กับน้องสาวของแม่เขา ที่ชื่อ ราเชล ในเมืองเบอร์ดิเชฟ (Berdichev)
ฟรีดริช ทำงานเป็นแรงงาน และเข้าเรียนที่สถาบันการทำเหมือง ดเนโปรเปตรอฟ (Dnepropetrovsk Minining Institute) จนกระทั้งเขาจบด้านวิศวกรรมในปี 1961 หลังจากนั้นได้เข้ามายังมอสโคว์ เพื่อศึกษาต่อ
1962 ช่วงนี้เขาทำงานให้กับโรงภาพยนต์ของโซเวียต, เขาเรียนคอร์สเกี่ยวกับการเขียนบทภาพยนต์ที่ Moscow Institute of Literature (ตั้งแต่ 20 ธันวาคม 1961- 1 เมษายน 1964)  และเริ่มงานเขียนหนังสือไปด้วย เขามีผลงานเขียนนิยายเรื่อง The House With Turret (Дом с башенкой) พิมพ์ลงในแม็กกาซีน Youth (Юность) เป็นผลงานเขียนชิ้นแรกของเขาสำหรับชาวโซเวียต ซึ่งอิงมาจากชีวิตจริงของเขา ที่ตัวเอกในเรื่องเป็นเด็กผู้ชายที่ออกเดินทางพร้อมด้วยมารดา แต่ว่าแม่เกิดเสียชีวิตในรถไฟระหว่างการเดินทาง
1965 เขียนนวนิยายเรื่อง Winter 53rd year (Зима 53-го года)
1979 The Stairs (Ступени) พิมพ์ลงใน Metropol Almanac (Метрополь) และก็เขียนนวนิยายที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุด อย่าง Psalm และ Place ซึ่งในเวลานั้นถูกอ่านเฉพาะในหมู่ผู้สร้างภาพยนต์และนักเขียนบทเท่านั้น
ฟริดริช มีผลงานเขียนบทภาพยนต์กว่า 17 เรื่อง ซึ่ง 5 เรื่องถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ เช่น  Solaris (Солярис), Slave of Love (Раба любви), The Seventh Bullter ( Седьмая пуля), The Comedy of Errors (Комедия ошибок)ซึ่งล้วนไม่ได้ถูกใส่ชื่อจริงของฟริดริชที่เขียนบทลงไป 
1980 ถูกเนรเทศออกจากสหภาพโซเวียต , ฟริสดิช ออกจากโซเวียตไปเวียนนา พร้อมด้วยภรรยาและลูกชายที่มีอายุเพียงห้าเดือน ภรรยาของเขาชื่อ อิน่า (Инна Прокопец) ส่วนลูกชื่อแดน  พวกเขาเดินทางต่อไปจนถึงเบอร์ลิน ในวันที่ 4 ธันวาคม โดยที่ในกระเป๋าของเขามีแมวชื่อคริสตีน่า ตัวโปรดเป็นผู้โดยสารด้วย
พวกเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ขนาด 3 ห้องนอน ใจกลางเบอร์ลินตะวันตก บนถนน Zeksisheshtrasse 73 ซึ่งเป็นที่พำนักของเขาตลอดจนสิ้นอายุขัย ภายหลังเขาหย่ากับภรรยาคนแรก และแต่งงานใหม่อีกครั้ง
งานเขียนส่วนใหญ่ของฟริดริช เขียนในกรุงเบอร์ลิน และไม่เป็นที่รู้จักในโซเวียตเพราะไม่เคยได้รับอนุญาตให้ตีพิมพ์
1993 เขียน Last Summer on the Volga เสร็จ
2002 เสียชีวิตในเบอร์ลิน วันทีี่ 2 มีนาคม 2002 ไม่กี่วันก่อนอายุจะครบ  70 ปี ในโรงพยาบาล Augusta-Victoria Hospital  , ร่างของเขาถูกฝังที่สุสานชาวยิว ในเมือง Weissensee
ผลงานเขียน
  • Дом с башенкой ( A House with turret)
  • Зима 53-го года (Winter 53rd year)
  • Знают ли оонатовцы, в чей огород бросают бомбы (Преступные удары по сербским городам и селам) (Do the oonatovtsy, in whose garden throw bombs
  • Искра (Spark)
  • Куча (Pile)
  • Маленький фруктовый садик (A small fruit garden)
  • Место (The Place)
  • Под звездами балканскими (балканский кошмар), (Under the stars of Balkans(the Balkan nightmare)
  • Попутчики (Travel)
  • Последнее лето на Волге (Last summer on the Volga)
  • Псалом (Psalm)
  • Разговор (Talk)
  • С кошелочкой (With Koshelochkoy)
  • Старушки (Old women)
  • Ступени (Stairs)
  • Улица Красных Зорь (Red Dawn Street)
Don`t copy text!