Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Lockhart Plot

ปี 1918 ในปลายของสงครามโลกครั้ง ที่ 1 รัสเซียภายใต้รัฐบาลบอลเชวิคได้ เจรจากับเยอรมันในการถอนทหารรัสเซียออกจากสงคราม ซึ่งหากข้อตกลงนี้สำเร็จ จะกลายเป็นว่าอังกฤษจะต้องรบกับเยอรมันลำพััง และเยอมันจะสามารถถอนกำลังจากตะวันออกมาเสริมยังด้านตะวันตกได้ อังกฤษต้องการให้รัสเซียร่วมเป็นพันธมิตรในสงครามต่อไป ดังนั้นจึงได้วางแผนที่จะสังหารเลนิน โดยส่งชายหนุ่มวัย 30 เศษ จากลอนดอน ไปยังมอสโคว์

Robert Lockhart,1909 in Malaysia,www.wikipedia.org

ชายคนนั้นมีชื่อว่า โรเบิร์ต บรูส ล๊อกฮาร์ต (Robert Bruce Lockhart) ชาวสก๊อตแต่ว่าความพยายามที่จะสังหารเลนิน ของล็อกฮาร์ตนั้นล่าช้า และไม่ทันการ ในเดือนมีนาคม 1918 โซเวียตได้ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ เบรส์ท-ลิตอฟส์ก ( Brest-Litovsk peace treaty) กับเยอรมัน เรียบร้อยแล้ว ทำให้ความหวังในการรั้งโซเวียตไว้ในสงครามหมดไว้ ทว่าล๊อกฮาร์ต ไม่ได้หยุดปฏิบัติการลง แต่ว่าวางแผนการใหญ่ขึ้น เขาเขียนจดหมายไปขอเงินทุนในการนำมาสนับสนุนกลุ่มที่ต่อต้านบอลเชวิคในโซเวียต หลายกลุ่ม จดหมายฉบับนั้นถูกส่งในเดือนมิถุนายน และประทับตรา “ด่วนมาก"และส่งผ่านจากกระทรวงการต่างประเทศมายังกระทรวงการครั้ง ก่อนหน้านั้นเดือน พฤษภาคม อังกฤษได้ส่งหน่วยทหารเล็กๆ เข้าไปในเมืองอาร์คแองเจิ้ล (Archangel) ในรัสเซียแล้ว โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้มียุทธกรณ์ทางทหารที่ส่งไปให้รัสเซียตกอยู่ในมือเยอรมัน แต่ก็มีเอกสารที่บอกว่า อังกฤษวางแผนให้ทหาร 5,000 นายเข้าร่วมกับทหารแลตเวียอีก 20,000 นายที่อยู่ในเครมลิน ซึ่งมีแนวโน้มจะแปรพักตร์ ในการต่อต้านบอลเชวิค ส่วนล๊อกฮาร์ต ได้เข้าพบกับผู้ต่อต้านบอลเชวิคคนหนึ่ง ชื่อ ซาวินคอฟ (Savinkov) ซึ่งได้อธิบายแนวคิดโค่นบอลเชวิคให้แก่ล๊อกฮาร์ฟัง ล๊อกฮาร์ตได้ส่งโทรสารรายงานเรื่องนี้กลับมายังลอนดอน ทั้งยังมีลายเซ็นต์ของ ลอร์ด เคอร์ซอน (Lord Curzon) สมาชิกรัฐมนตรีกิจการสงครามของอังกฤษ กำกับบนเอกสารด้วย ซึ่งวิจาร์ณแนวคิดของซาวินคอฟว่าน่าสนใจ และมีประสิทธิภาพ แต่ต้องรอให้มีการตัดสินใจก่อน

Sidney Rielly,1924

ในรัสเซีย อังกฤษมีสายลับอีกคน ชื่อซิดนีย์ เรียลลีย์ ( Sidney Reilly) เป็นชาวรัสเซีย ซึ่งร่ำรวย ที่เปลี่ยนชื่อจาก Rosenbloom และทำงานให้กับหน่วยสายลับของอังกฤษ เขามีฉายาว่า Ace of Spies แต่ว่าความพยายามของเขาในการที่จะสังหารเลนิน ในปีนั้น ทำให้ตัวเขาเองถูกยิงจากระยะใกล้ถึงสองนัดโดยผู้หญิงชาวรัสเซีย แต่ว่าหลบหนีไปได้ ตำรวจลับเชก้า ได้จับตัว ล๊อกฮาร์ต ได้ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เรียลลีย์ แม้คราวนี้จะรอดไปได้ แต่หลายปีต่อมาเขากลับเข้ามาในรัสเซียอีกและถูกยิงตายในที่สุด จากบันทึกของตำรวจเชก้า ล๊อกฮาร์ตสารภาพว่าได้พยายามฆ่าเลนิน และล้มบอลเชวิคจริง แต่ล๊อกฮาร์ตเองถูกส่งตัวแลกกับสายลับรัสเซียที่โดนจับในเดือนตุลาคม  ล๊อกฮาร์ตเขียนหนังสือ Memoirs of a British Agent ในปี 1930s เขาปฏิเสธว่าไม่ได้วางแผนฆ่าเลนินแต่อย่างใด แต่เป็นซิดนีย์ เรียลลีย์ที่วางแผนการทั้งหมด แต่ว่า ศจ.โรเบิร์ต เซอร์วิส (Professor Robert Service) ได้ค้นพบจดหมายของโรบิน (Robin) ลูกชายของล๊อกฮาร์ต ในหอเอกสาร ในอเมริกา ได้ยอมรับว่าพ่อของเขาทำงานเป็นทีมกับเรียลลีย์ จริง  90 ปี ผ่านมาอังกฤษปฏิเสธข้อกล่าวหานี้จากโซเวียตมาตลอด ซึ่ง ศจ.โรเบิร์ต ก็สรุปเอาไว้ว่า "อังกฤษไม่ได้ใสซื่อเสมอไป ทั้งยังสกปรกเหมือนคนอื่นๆ นั้นแหละ”
Referencehttp://www.bbc.co.uk/news/world-12785695



Memoirs of a British Agent

Don`t copy text!