First Russian general killed in 1812

Tags: History, Society, War of 1812, Russia, World Kharlamova Maria 10.12.2010, 13:09 The Voice of Russia World Service presents another edition in the series “Russia in the 1812 war against France” dedicated to the bicentenary of our country’s victory. Today we will tell you about one of that war’s heroes, General Yakov Kulnev. The name of Russian military commander Yakov Kulnev was widely known both in Russia and abroad. Emperor Napoleon Bonaparte called him “one of the best officers of the Russian cavalry”. So, what distinguished service won the Russian general such compliments from the French leader himself, who was usually rather restrained in his praise even of his subordinates, to say nothing of his enemies? Читать далее Source: Voice of Russia.

The Voice of Russia นำเสนอเรื่องราวการต่อต้านจักรวรรดิฝรั่งเศสของรัสเซียในปี 1812 เพื่อรำลึกในวาระครบรอบสองศตวรรษชัยชนะ เรื่องราววันนี้ คือ วีระบุรุษคนหนึ่งในสงครามครั้งนั้น ท่านนายพล ยาคอฟ คุลเนฟ (General Yakov Kulnev) ชื่อของผู้บัญชาการทหาร ยาคอฟ คุลเนฟ เป็นที่รู้จักกันในรัสเซียและต่างประเทศ นายพลคนหนึ่งซึ่งนโปเลียน เรียกว่า “นายทหารที่ดีที่สุดคนหนึ่งของกองทหารม้ารัสเซีย” ผลงานอะไรกันที่ทำให้นายพลผู้นี้ได้รับเสียงชมเชยจากจักรพรรดิศัตรู ผู้ซึ่งว่ากันว่าแม้แต่ลูกน้องตัวเองเขาก็ไม่ค่อยจะเอยปากชมเชย แต่นี้กลับศัตรูของพระองค์เอง ?

ยาคอฟ คุลเนฟ เกิดมาในครอบครัวนายทหาร พ่อของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพรัสเซีย ซึ่งหลังเกษียรได้ไปตั้งลงรากในหมู่บ้านกาลุก้า (Kaluga) พร้อมกับเครือญาติ แม้ว่าจะเคยเป็นเจ้าหน้าที่มีชื่อเสียง แต่ครอบครัวของพ่อก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ยาคอฟ ถูกส่งเข้าโรงเรียนการทหารตั้งแต่เมื่ออายุย่าง 8 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษา เขาก็ได้สิทธิในการรับราชการทันที่ทำให้เขาต้องมาเกี่ยวพันในสงครามต่อต้านฝรั่งเศส ตุรกี โปแลนด์ รวมถึงสวีเดน ซึ่งเข้าได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ มุ่งมัน ที่เหนือว่านายทหารทั่วไป ในเหตุการ์สงครามระหว่างรัสเซียและสวีเดน ในปี 1808-1810 แสดงได้เห็นความสามารถของเขาได้ดีครั้งหนึ่ง ยาคอฟ คุลเนฟ ตอนนั้นได้ถูกแต่งตั้งให้รับตำแหน่งนายพลเรียลร้อยแล้ว มีหน้าที่ได้ออกคำสั่งทหารหน่วยที่ต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายศัตรูโดยตรง ซึ่งตอนกองทัพอยู่ใต้ผู้บังคับบัญชาที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เพียเตอร์ เบเกรชั่น (General Pyotr Bagration) ก่อนที่จะมีการเริ่มปฏิบัติการ คุลเนฟ ได้บอกกับเหล่าทหารของเขาว่า “ขอพระเจ้าสถิตท่าน ข้าจะนำหน้าพวกท่าน และเจ้าชายเบเกรชั่นอยู่ด้านหลังพวกท่าน สิ่งที่พวกเราต้องทำคือยึดจุดที่สวีเดนยึดครองมาให้ได้” และเขาก็ทำได้สำเร็จ เขาทำหน่วยทหารข้ามธารน้ำแข็งในอ่าวโบทานี (Botany Bay) เร็วดังสายฟ้าฟาดไปที่กองทัพศัตรู เมื่อได้รับชัยชนะเขาได้รับพระราชทาน ตรายศสูงสุดสำหรับกองทัพรัสเซีย และตราที่ทำจากเพชรสำหรับประดับกระบี่ กิตติศักดิ์ของเขาแพร่ขจายไปทั่วรัสเซียและในกองทัพศัตรู แต่นี้อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้โบนาบาร์ดประทับใจในนายพลท่านนี้

ยาคอฟ คุลเนฟ มีคุณลักษณะอันโดดเด่นที่ทำให้เขาดูเหนือกว่านายทหารท่านอื่น และได้รับการเคารพจากทหารในกองทัพอย่างมาก เขาเป้นเหมือนพ่อของนายทหารใต้บังคับบัญชา ว่ากันว่า ท่านนายพลไม่ค่อยจะยอมนอนหลับ โดยให้เหตุผลว่า “ฉันไม่ต้องการจะนอนเพราะต้องการให้ทหารของฉันได้พักผ่อน ตอนเช้าพวกเขายังจะต้องมีหน้าที่ในการรบกันอีก”

ในสงคราม ปี 1812 เพื่อต่อต้านฝรั่งเศสนั้น หน่วยของนายพลคุลเนฟ มีหน้าที่ปกป้องเส้นทางที่นโปเลียนจะใช้โจมตีนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ทหารของเขาสามารถเอาชนะได้ในการปะทะกันหลายครั้ง สามารถจับเชลยผู้รุกรานได้กว่าหนึ่งพันห้าร้อยนายเพียงแค่ระยะเวลาสองสัปดาห์ แต่ว่าในการรบครั้งสุดท้ายในชีวิตเขา เขาได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนใหญ่และเสียชีวิตลง 5 วันก่อนที่ตัวเขาจะอายุครบ 49 ปี ซึ่งเหมือนโชคชะตาล้อเล่นกับเขา เพราะห่างไปไม่กี่ไมล์ในจุดที่เขาเสียชีวิต ก็จะถึงบ้านเกิดของเขา ที่ซึ่งให้เกิดเนิดเด็กชายที่จะเป็นผู้บังคับบัญชานายทหารที่ยิ่งใหญ่มาเมื่อ 6 สิงหาคม 1763 เขากลายเป็นนายพลคนแรกของกองทัพรัสเซียที่เสียชีวิตในการรบกับฝรั่งเศส ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าคำสั่งสุดท้ายของท่าน คือ “เพื่อนเอ๋ย อย่างปล่อยให้ศัตรูมันเข้ามาเหยียบแผ่นดินเราได้แม้เพียงก้าว ชัยชนะรอพวกเราอยู่”

รัสเซ๊ย คือ ดินแดนที่เป็นรักแท้หนึ่งเดียวตลอดชั่วชีวิตของนายพลคุลเนฟ มันเป็นเหตุผลให้เขาไม่เคยได้แต่งงาน ท่านนายผลเคยบอกว่าเคยมีความรักจนเหมือนจะคลั่ง แต่ว่าหญิงคนนั้นกับขอให้มือและหัวใจของท่าน ต้องการให้ท่านลาออกจากการเป็นทหาร ท่านจีงเขียนตอบหญิงคนรักไปว่า “ไม่มีอะไร ต่อให้มันเป็นความรักลึกซิ้งอย่างที่สุดที่มีต่อตัวเธฮก็ตาม ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันผละแผ่นดินเกิดของฉันไป ลาก่อน”