Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Norman Finkelstien

นักวิชาการด้านอิสราเอล- ปาเลสไตน์ นอร์แมน ฟินเกลสไตน์ (Norman Finkelstein) คนยิวที่ไม่เป็นที่รักของอิสราเอล คนยิวที่รักของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งบางคำนิยาม ก็บอกว่า ฟินเกลสไตน์ เป็นยิวที่เกลียดตัวเอง (self-hating jew) ซึ่งออกจะรุนแรงไปนิด

พ่อแม่ของฟินเกลสไตน์ เป็นชาวยิวอพยพมาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา แม่ของฟินเกสไตน์ แมรีลา (Maryla Husyt Finkelstein) เติบโตขึ้นมาในวอร์ซอร์ เธอเสียสามีคนแรกไปในระหว่างสงคราม แต่ตัวเธอเองรอดพ้นจากค่ายกักกันชาวยิวในโปแลนต์ มาจดันเนก (Majdanek Ghetto) มาได้ ส่วนพ่อของฟินเกลสไตน์ ซาชาเรียส (Zacharias) ก็สามารถรอดพ้านจากเกตโต และค่ายออสวิตซ์
หลังจากอพยพายังสหรัฐ พ่อของเขาเข้่าทำงานเป็นแรงงานในโรงงาน ส่วนแม่ทำหน้าที่เลี้่ยงลูกๆ อยู่ที่บ้าน
คนที่มีอิทธิพลต่อทัศนะคติของฟินเกนสไตน์ น่าจะเป็นแม่ของเขา ซึ่งฟินเกนสไตน์โพสต์ประวัติของแม่ของเขาไว้บนเว็บไซด์ของเขาด้วย แม่ของเขาแม้ว่าจะต้องหนีจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในยุโรปมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่เมรีลา กลับรู้สึกผิดหวังกับสหรัฐ และการทำสงครามเวียดนาม
ซึ่งเธอรู้สึกว่าคนเราไม่ควรจะละเลยศีลธรรมถ้ามันมีค่าถึงชีวิตของคนอีกคนหนึ่ง พ่อแม่ของเขายังศึกษาแนวคิดของคอมมิวนิสต์แต่ว่าไม่ได้เข้าร่วมกับองค์กรใด
ฟินเกลสไตน์ เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย บิงแฮมตัน (Binghamton) ในนิวยอร์คในปี 1974 จากนั้นเรียนโทด้านรัฐศาสตร์จากพรินตัน (Printon) ในปี 1980 และจบปริญญาเอกที่พรินตันเช่นกัน วิทยานิพนธ์ก่อนจบการศึกษาของเขาชื่อ “คำถามจากคนยิวถึงดินแดนแห่งยิว : บทความเกี่ยวพันทฤษฏีไซออนนิส From the Jewish Question to the Jewish State: An Essay on the Theory of Zionism”

เขามีผลงานเขียนเกือบสิบเรื่องและบทความในนิตยสารหลายฉบับ แต่หนังสือที่ได้รับการพูดถึงมากอย่าง The Holocaust Industry (ปี 2000) เขาพูดถึงหนังสือของเขาเองว่า ความเจ็บปวดของชาวยิวในการถุกฆ่าล้างเผ่าพันธ์ (ช่วงสงครามโลก) ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาและผลประโยชน์ของอิสราเอล และชาวยิวบางคน ขบวนการต่อต้านชาวยิว (anti-Semitism) ไม่ได้มีอยู่จริงในปัจจุบัน เป็นแค่การสร้างภาพขึ้นเพื่อให้อิสราเอลดูราวกับว่าเป็นผู้เคราห์ร้ายและถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา ซึี่งมันขัดกับความเป็นจริง
ปี 2007 มหาวิทยาลัยเดอพอล (Depaul) ปฏิเสธการมอบตำแหน่งทีเนอ (Tenure, คณะกรรมการหรือบอร์ดของคณะวิชา)
ฟินเกลสไตน์ สนับสนุนกลุ่มเฮซบุลเลาะห์ อย่างเปิดเผย เขาเป็นชาวยิวไม่กี่คนที่เดินทางเข้าออกสำนักงานใหญ่ของเฮซบุลเลาห์ เดินทางไปเยื่อนเลบานอน ฉนวนกาซ่า ทุกที่ที่ชาวปาเลสไตนืเดือดร้อน
ปี 2008 อิสราเอลปฏิเสธออกวีซ่าให้พิลเกลไตน์เข้าประเทศ และห้ามเขาเข้าอิสราเอล 10 ปี เนื่องจากมองว่าเขาเป็นแกนนำของเฮสบุลเลาห์และเป็นอันตรายต่ออิสราเอล
ปี 2008/2009 อิสราเอล โจมตีกาซ่า ชาวปาเลสไตน์กว่า 1,387 คนเสียชีวิต อิสราเอลใช้แม้แต่ฟอฟอรัสขาว อาวุธเคมีที่ห้ามใช้ในสงคราม แต่ว่าโลกนี้ละเลยที่จะห้ามปรามอิสราเอล ซึ่งแม้แต่ประธานาธิบดีจิมมี่ คาเตอร์ ยังกล่าวว่าอิสราเอล สมควรจะถูกประนามในเหตุการณ์นั้น ปีนี้ อิสราเอลยังส่งทหารบุกยึกเรือกู้ภัยที่ขนแพทย์และอาหารไปให้ชาวกาซ่า อีก

การเข้าสมาชิกกลุ่มอิซบุลเลาห์ของฟินเกลสไตน์อาจจะทำให้เขาเสียความเป็นกลางและการมองโลกตามความเป็นจริงและไม่ควรละเลยศีลธรรมไป ปัญหาอิสราเอล ปาเลสไตน์ ต่างฝ่ายก็ใช้ความรุนแรง สลับกันเป็นผู้กระทำ และผู้สูญเสีย การเลือกทีี่จะช่วยเหลืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตลอดเวลา คงไม่อาจจะทำให้สันติภาพกลับมาได้ เหมือนชายที่เกลียดเงาประเทศตัวเองจนสั่งเผาบ้านเมืองตัวเองได้

มีภาพยนต์กึ่งสารคดีเรื่องหนึ่งที่ถ่ายทอดชีวประวัติของ นอร์แมน ฟินเกลสไตน์ คนนี้ ออกฉายเมื่อ 2009 ชื่อAmerican Radical: The Trials of Norman Finkelstein และตลอดปีที่แล้ว ภาพยนต์กวาดรางวัลมาแล้วหลายรางวัล ล่าสุดเป็นรางวัลจากเทศกาลภาพยนต์โตรอนโต รางวัล Hot Docs ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ดูเช่นกัน เพราะยังหาแผ่นไม่ได้ แต่อยากแนะนำให้ใครที่มีโอกาสเห็นภาพยนต์หรือหนังสือเกี่ยวกับ ชายที่ชื่อ นอร์แมน ฟินเกลสไตน์ อย่าลืมที่จะได้ทำความรู้จัก กับตัวตนของเขา … ซึ่งคุณในฐานะบุคคลที่สาม อาจจะเข้าใจเขา มากกว่าตัวเขาเองก็เป็นได้

Don`t copy text!